ชี้เทรนด์ศัลยกรรมเอเชีย “เสริมจมูก-ทำตาสองชั้น”

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว...ศูนย์ศัลยกรรมครบวงจรใหม่ล่าสุด “เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย” ซึ่งเป็นการจับมือร่วมกันระหว่างกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ของไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจความงามภายใต้ชื่อ “ไพร์มเมดิกา กรุ๊ป” นำโดยนักธุรกิจสาวชื่อดัง “เอมี่-อลิสา อินทเสนี” กับโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชื่อดังระดับท็อป 5 แห่งแดนกิมจิ “JW Plastic Surgery Korea”

“เอมี่ - อลิสา อินทเสนี” ประธานกรรมการบริหาร “ไพร์ม เมดิกา กรุ๊ป” เปิดเผยว่า ศูนย์ศัลยกรรมความงาม “เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย” ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท โดยตั้งเป้าให้เป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามคุณภาพสูงระดับพรีเมียมและเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีจุดเด่นคือ นวัตกรรมและเครื่องมือการผ่าตัดที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ภายใต้สโลแกน “Safety Beauty Quality” โดยมีค่าบริการต่ำกว่าเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีประมาณ 50%

ศูนย์ศัลยกรรม “เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย” มีทีมแพทย์ชาวไทยที่ผ่านการอบรมจากโรงพยาบาล “เจดับเบิ้ลยู เกาหลี” ซึ่งมีความชำนาญและเรียนรู้เทคนิคทางการแพทย์จนได้มาตรฐานเดียวกับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล “เจดับเบิ้ลยู เกาหลี” ประจำอย่างเป็นทางการเพื่อให้บริการต่างๆ ประกอบด้วย การเสริมจมูก การทำตาสองชั้น การปรับแก้ไขรูปหน้า ศัลยกรรมหน้าอก และแปลงเพศ โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกรับการบริการได้ทั้งในประเทศไทยและเดินทางไปใช้บริการที่ประเทศเกาหลีในรูปแบบแพกเกจทัวร์พร้อมท่องเที่ยว

“การเข้าสู่ตลาดศัลยกรรมความงามครั้งนี้เพราะเห็นช่องว่างทางตลาดที่มีมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทและมีการเติบโตต่อเนื่องถึงปีละ 20% โดยในส่วนของ เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย มีการใช้งบประมาณการตลาด 20 ล้านบาทในการสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดียและการจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ โดยตั้งเป้ารายได้ในปี 2559 ประมาณ 40-50 ล้านบาท”

“เอมี่-อลิสา อินทเสนี” บอกด้วยว่า ตามแผนของ “ไพร์ม เมดิกา กรุ๊ป” จะมีการเปิดศูนย์ศัลยกรรม “เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย” สาขาที่ 2 ย่านสยามสแควร์ ประมาณปลายปี 2559 โดยระหว่างนี้กำลังอยู่ในระหว่างการหาพื้นที่เพื่อเปิดศูนย์บิวตี้เซ็นเตอร์จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามทุกชนิดของแบรนด์ต่างๆ ในช่วงกลางปี 2560 ด้วยงบประมาณ 20 ล้านบาท จากนั้นจะเปิดดำเนินงานโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามครบวงจรใน ซ.ศูนย์วิจัย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ภายใน 2-3 ปี ด้วยงบประมาณขั้นต้น 100 ล้านบาท ก่อนที่จะเริ่มเข้าไปทำตลาดในประเทศกัมพูชา พม่า และเวียดนาม เป็นลำดับต่อไป

สำหรับวันเปิดตัวศูนย์ศัลยกรรม “เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย” อย่างเป็นทางการยังได้รับเกียรติจาก “ดร.มัน กุน ซอ” (Dr.Man Koon Suh) หรือ “หมอซอ” ศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลศัลยกรรม “เจดับเบิ้ลยู เกาหลี” และยังเป็นศัลยแพทย์ชื่อดังผู้เขียนตำราการทำศัลยกรรมเสริมจมูกชื่อ “Asian Rinoplasty” ให้แพทย์ทั่วไปได้ศึกษา มาร่วมงานพร้อมแชร์มุมมองเกี่ยวกับเทรนด์ศัลยกรรมในเอเชียด้วยว่า ในความเป็นจริงการทำศัลยกรรมไม่ได้มีเทรนด์ใดๆ แต่เป็นเรื่องของความนิยมมากกว่า โดยคนเอเชียส่วนใหญ่นิยมทำศัลยกรรมตาสองชั้นและเสริมจมูกเป็นหลัก โดยเฉพาะสาวเกาหลีจะนิยมทำตาสองชั้นมากเป็นอับดับหนึ่ง ขณะที่คนไทยนิยมเสริมจมูกมากกว่า ส่วนคนสิงคโปร์และเวียดนามซึ่งถือเป็นลูกค้าหลักของศัลยกรรมเกาหลีก็นิยมทำตาสองชั้นและเสริมจมูกเช่นกัน


“หมอซอ” บอกด้วยว่าคนไทยชอบทำศัลยกรรมแบบให้ดูสวย “โดด เด่น เด้ง” ขณะที่สาวเกาหลีชอบทำศัลยกรรมแบบเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยมักจะนำรูป 2 ดาราสาวชื่อดัง “ซงฮเยคโย” และ “คิมแตฮี” ไปเป็นแบบในการทำศัลยกรรมมากที่สุดอีกด้วย

สำหรับศัลยกรรมการเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชียขณะนี้คือรูปทรงจมูกแบบ S-Line ซึ่ง “เจดับเบิ้ลยู เกาหลี” เป็นต้นแบบในการคิดค้นการเสริมจมูกทรงนี้ โดยวัสดุที่นิยมใช้ในการเสริมจมูกคือ ซิลิโคน, โบท็อกซ์ รวมทั้งกระดูกอ่อนจากใบหูและซี่โครง เพราะทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ภายในงานเปิดตัวยังได้เชิญดาราสาวฮอต “เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร” มาร่วมเปิดใจเรื่องศัลยกรรมว่า ปัจจุบันคนไทยยอมรับการทำศัลยกรรมว่าเป็นเรื่องปกติเพื่อเสริมความมั่นใจและแก้ไขจุดบกพร่องให้ตนเองดูดีขึ้น แต่อยากให้ระวังสักนิดก่อนที่จะทำศัลยกรรมต้องมั่นใจว่าปลอดภัย ที่สำคัญ คลินิก หรือโรงพยาบาลนั้นต้องสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

เมื่อถามว่าจุดไหนของใบหน้าที่ผู้หญิงไทยอยากทำศัลยกรรมมากที่สุด “เมย์” ตอบว่า “จมูก และตา เพราะจมูกเป็นจุดเด่นของใบหน้า ทำให้หน้าดูมีมิติ โดดเด่น ส่วนดวงตาเป็นจุดโฟกัสแรกของใบหน้า จมูกและตาที่สวยได้รูปจะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี มั่นใจยิ่งขึ้นค่ะ”

“อีกสิ่งหนึ่งสำคัญที่ต้องเลือกให้ดีคือ ฝีมือของหมอ หมอไหนดี หมอไหนดัง น่าเชื่อถือ ขอดูประวัติผลงานก่อนได้ เพราะไหนๆ จะทำและเจ็บตัวแล้วก็ควรทำให้ดีและสวยคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป”

ศูนย์ศัลยกรรม “เจดับเบิ้ลยู ประเทศไทย” เปิดให้บริการมาแล้ว 1 ปี ณ อาคารจีพีเอฟ ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ บนพื้นที่ 100 ตารางเมตร โดยผู้สนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษาและข้อมูลเกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่งได้ที่ศูนย์ก่อนการตัดสินใจโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เข้ารับคำปรึกษาและผ่าตัดเพื่อเสริมความงามและแก้ไขจุดบกพร่อง ความผิดพลาดจากการศัลยกรรมในอดีตเฉลี่ยเดือนละประมาณ 20-30 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงาน อายุ 25-60 ปี ซึ่งศึกษาข้อมูลและรู้จักชื่อเสียงของโรงพยาบาล “เจดับเบิ้ลยู เกาหลี” เป็นอย่างดี จึงให้ความเชื่อมั่นเข้ารับการบริการ