ผู้จัดการรายวัน 360 - สมาคมโฆษณาดิจิทัลเผยผลสำรวจมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลของปี 58 สูงถึง 8,084 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 32% คาดปี 59 ยังเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 23% พุ่งถึง 9,927 ล้านบาท
นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DATT เปิดเผยว่า ความนิยมในการบริโภคสื่อดิจิตอลของคนไทยมีสูงขึ้นมาก หลังจากที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถเลือกรับชมข้อมูลวิดีโอซึ่งเป็นรูปแบบเนื้อหาที่คนไทยชอบได้อย่างไม่สะดุดในทุกสถานที่และทุกเวลา ส่งผลให้นักการตลาดใช้สื่อดิจิตอลเป็นช่องทางในการสื่อสารโฆษณาในรูปแบบของวิดีโอเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งในอดีตใช้จ่ายเงินโฆษณาในสื่อหลักโดยเฉพาะโทรทัศน์ เริ่มจัดสรรงบประมาณมาเพื่อนำเสนอโฆษณาผ่านทางสื่อดิจิตอลเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่าปีก่อนๆ ในทุกๆ แพลตฟอร์ม
การโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีแนวโน้มเป็นสื่อโฆษณาอันดับ 2 แซงสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตลงเหลือประมาณ 8-9% โดยยังคงเป็นรองสื่อโทรทัศน์ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าปัจจุบันมีผู้ชมลดน้อยลงมากเหลือเพียง 2-3 กลุ่ม เช่น ชมการถ่ายทอดสดกีฬา หรือคอนเสิร์ต รวมถึงละครเฉพาะตอนจบเท่านั้น
นายศิวัตรกล่าวในตอนท้ายว่า ล่าสุดสมาคมฯ ร่วมกับ TNS บริษัทวิจัยชั้นนำ สำรวจมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลของปี 2558 จาก 23 บริษัทดิจิตอลเอเยนซีชั้นนำของประเทศไทย พบว่า ในปี 2558 มีมูลค่า 8,084 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 32% และคาดว่าในปี 2559 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องอีก 23% คิดเป็นมูลค่า 9,927 ล้านบาท
ด้าน นายนรสิทธ์ สิทธิเวชวิจิตร กรรมการสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า 5 กลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่ใช้งบโฆษณากับสื่อดิจิตอลมากที่สุดในปี 2558 อันดับหนึ่งเป็นกลุ่มสื่อสารที่ใช้งบฯ กว่า 974 ล้านบาท ตามด้วยกลุ่มยานยนต์ 918 ล้านบาท กลุ่มเครื่องประทินผิว 595 ล้านบาท กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม 567 ล้านบาท และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผม 513 ล้านบาท ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิตอลเพิ่มในมูลค่าสูงที่สุดเทียบจากปี 2557 คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมซึ่งใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 400 ล้านบาท
ส่วนปี 2559 คาดว่าอุตสาหกรรมหลักที่ยังคงมีการใช้จ่ายงบโฆษณาดิจิตอลในปีที่ผ่านมาจะยังคงเป็นกลุ่มเดิม คือ กลุ่มสื่อสาร มีเกณฑ์ใช้งบ 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% กลุ่มยานยนต์ 1,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% กลุ่มเครื่องประทินผิว 691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม 653 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
ในส่วนของผลสำรวจตามประเภทของการใช้สื่อออนไลน์พบว่า เฟซบุ๊กเป็นรูปแบบของสื่อโฆษณาที่ครองส่วนแบ่งงบโฆษณาดิจิตอลสูงสุดในปี 2558 คือ 24% ของยอดการใช้จ่ายทั้งหมดซึ่งเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 95% จากปี 2557 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องประทินผิวเป็นกลุ่มที่มียอดการใช้จ่ายผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นสูงสุดจากปี 2557 รูปแบบของสื่อโฆษณาที่มีสัดส่วนยอดใช้จ่ายรองลงมาคือดิสเพลย์มียอดการใช้ 21% และตามติดด้วยยูทิวบ์ 20% ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 87% ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการใช้งบประมาณตามประเภทสื่อออนไลน์ของปี 2559 จะยังคงเติบโตอย่างทรงตัวและมีสัดส่วนใกล้เคียงกับปี 2558
ด้าน ดร.อาภาภัทร บุญรอด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกันตาร์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ผลสำรวจเม็ดเงินโฆษณาดิจิตอลในปีนี้ได้จัดทำขึ้นในมิติที่หลากหลายและแตกต่างไปจากปีที่ผ่านมา ทั้งจากรูปแบบการทำวิจัยทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพควบคู่กันเพื่อให้สามารถสะท้อนภาพเชิงลึกได้ดียิ่งขึ้น อาทิ การลงรายละเอียดในข้อมูลเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ หรือข้อมูลเฉพาะในลักษณะของรูปแบบการซื้อแบบ Direct, Ad Network หรือ Programmatic ทั้งในรูปแบบของรายงานและข้อมูลดิบ
การสำรวจครั้งนี้ “ทีเอ็นเอส ประเทศไทย” ยังได้ดำเนินการจัดเวิร์กชอปให้ผู้ประกอบการธุรกิจโฆษณาดิจิตอลได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำความเข้าใจวิธีการเข้าร่วมการสำรวจผ่านระบบดิจิตอลซึ่งเป็นระบบที่สามารถรักษาความลับของข้อมูลในระดับสูงสุด อีกทั้งยังมีระบบการตรวจทานข้อมูล (Information Verification System) ก่อนส่งแบบสำรวจ ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา โดยเล็งเห็นว่าข้อมูลงบประมาณและการใช้จ่ายด้านสื่อต่างๆ เป็นข้อมูลที่สำคัญต่อนักการตลาดและนักโฆษณาประชาสัมพันธ์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันสื่อดิจิตอลมีบทบาทต่อผู้บริโภคในการสร้างการรับรู้ต่อตราสินค้าและบริการ ตลอดจนต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการเป็นอย่างมาก