“มัลดีฟส์” ชวนไทยเข้าไปทำการค้าและลงทุน หลังมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจทุกด้าน ไม่ใช่แค่ภาคการท่องเที่ยว เผยมีโอกาสในด้านอาหาร ประมง ก่อสร้างโรงแรม ที่อยู่อาศัย รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านการท่องเที่ยว เตรียมประชุม JTC มิ.ย.นี้ หารือเพิ่มความร่วมมือ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มการค้า 2 เท่าตัวเป็น 200 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 61 ขอมัลดีฟส์นำเข้าผัก ผลไม้ หมู ไก่ จากไทยโดยตรง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนาย Mohamed Saeed รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์เข้าพบว่า มัลดีฟส์ได้แจ้งว่ารัฐบาลมีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว โดยได้เชิญไทยให้เข้าไปขยายการค้าและการลงทุนในมีลดีฟส์เพิ่มขึ้น เพราะมัลดีฟส์มีนโยบายในการผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศมีการขยายตัวในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่มีโอกาสในการเข้าไปทำการค้าและการลงทุนของไทย เช่น อุตสาหกรรมอาหารและอาหารแปรรูป เพราะมัลดีฟส์ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ประมง และอุตสาหกรรมแปรรูปด้านประมง โดยมีวัตถุดิบด้านประมงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปลาทูน่า การก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ต ที่อยู่อาศัย ตามการขยายตัวของการการขยายเมืองและการท่องเที่ยว และยังมีโอกาสในการลงทุนด้านพลังงานจากขยะ รวมถึงการเข้าไปลงทุนในด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งการดำน้ำ กีฬาทางน้ำ การจำหน่ายของที่ระลึก เป็นต้น
นางอภิรดีกล่าวว่า มัลดีฟส์ได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มัลดีฟส์ ครั้งที่ 2 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจมัลดีฟส์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทยเป็นประธานร่วม ซึ่งไทยได้เสนอให้จัดการประชุมดังกล่าวระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย. 2559 เพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนเป็นการแสวงหาแนวทางในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับมัลดีฟส์ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้าตามที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดให้มีการเพิ่มพูนมูลค่าการค้าระหว่างกันจากมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2561
นอกจากนี้จะมีการหารือเพื่อทำความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย-มัลดีฟส์ เพื่อเป็นการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงฯ จะมีการหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อจัดทำความตกลงดังกล่าวต่อไป
นางอภิรดีกล่าวว่า ไทยยังได้เสนอให้มัลดีฟส์เพิ่มการนำเข้าสินค้าผักสด ผลไม้ เนื้อสุกร ไก่ จากไทยโดยตรง เพราะที่ผ่านมา มัลดีฟส์ใช้วิธีการนำเข้าผ่านจากประเทศอื่น เช่น ดูไบ ทั้งๆ ที่ไทยสามารถส่งออกไปโดยตรงได้ โดยในช่วงการประชุม JTC กระทรวงฯ จะนำคณะผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มนี้ของไทย ไปหารือกับผู้ประกอบการของมัลดีฟส์ เพื่อเจรจาซื้อขายสินค้าด้วย
สำหรับมัลดีฟส์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 96 ของไทยในโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 5 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และศรีลังกา ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) การค้ารวมมีมูลค่าเฉลี่ย 123.53 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2558 การค้ารวมมีมูลค่า 122.54 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.03 ของการค้าทั้งหมดของไทย โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 40.64 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปมัลดีฟส์ ได้แก่ จักรยานยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องจักรกล และส่วนประกอบ ผักสดแช่เย็น/แช่แข็ง/แห้ง ผลไม้สด/แช่เย็น/แช่แข็ง/แห้ง ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์เซรามิค เหล็กและเหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
สินค้านำเข้าที่สำคัญของไทยจากมัลดีฟส์ ได้แก่ สัตว์น้ำสด/แช่เย็น/แช่แข็ง/แปรรูป และกึ่งแปรรูป เรือและสิ่งก่อสร้างลอยน้ำ ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องบิน เครื่องร่อนและอุปกรณ์การบิน ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งพิมพ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สัตว์มีชีวิตไม่ได้ทำพันธุ์ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค เป็นต้น