“พาณิชย์” มั่นใจปีนี้ไทยส่งออกข้าวได้ 9.5 ล้านตัน หลัง 2 เดือนครึ่งส่งออกแล้ว 2.38 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 28% พร้อมเดินหน้าโรดโชว์ขายข้าวไทย ประเดิมฮ่องกง ตามต่อด้วยแอฟริกา สิงคโปร์ และสหรัฐฯ ส่วนข้าวจีทูจีจีนล็อตสุดท้ายตกลงกันได้แล้ว เตรียมหารือส่งมอบล็อตใหม่ทันที
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 17 มี.ค. 2559 มีปริมาณ 2.38 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ส่งออกได้ปริมาณ 1.85 ล้านตัน โดยมีมูลค่า 3.73 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 2.99 หมื่นล้านบาท โดยแยกเป็นเดือน ม.ค. ส่งออกได้ 1.02 ล้านตัน เดือน ก.พ. 9.05 แสนตัน และครึ่งเดือน มี.ค. 4.25 แสนตัน ซึ่งประเมินว่าทั้งปี 2559 ไทยจะส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมายที่กำหนด คือ 9.5 ล้านตัน
ทั้งนี้ ยืนยันว่าแม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่กำลังซื้อข้าวไม่ได้ลดลง เพราะคนยังต้องกินข้าว ยังมีการซื้อข้าวไทยเป็นปกติ และราคาข้าวของไทยในขณะนี้ก็ไม่ได้สูงจนเกินไป ถือเป็นโอกาสทองของผู้ซื้อด้วยซ้ำที่จะซื้อข้าวได้ในราคานี้ เพราะประเมินว่าแนวโน้มต่อไปราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้น จากการที่ผลผลิตลดลงจากภัยแล้ง
นางดวงพรกล่าวว่า เพื่อให้มีการส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมฯ ได้ทำแผนการตลาดข้าว โดยจะเดินทางไปโปรโมตข้าวไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ โดยเริ่มจากวันที่ 5-7 เม.ย. 2559 จะมีการจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชน นำโดยนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปหารือกับ รมว.กระทรวงการค้าและพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง และพบกับสมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง เพื่อขยายตลาดสินค้าข้าว ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวสี เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี เป็นต้น
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. 2559 ในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) กับอิรัก จะมีการหารือในการนำเข้าข้าวจากไทย และวันที่ 28-30 มี.ค. 2559 รัฐมนตรีผู้ช่วยประธานาธิบดีฝ่ายความมั่นคงทางอาหารและการพัฒนาการเกษตรของฟิลิปปินส์จะเดินทางมาไทยก็จะมีการหารือถึงการนำเข้าข้าวไทยในปี 2559
ส่วนตลาดแอฟริกาจะมีการจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไทยพบปะผู้นำเข้าข้าวภาครัฐและเอกชนในแอฟริกาใต้ และแอฟริกาตะวันตก เช่น แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย เบนิน เป็นต้น ช่วงเดือน พ.ค. และในเดือน มิ.ย.-ก.ค. มีแผนจะจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนไปส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยที่สิงคโปร์และสหรัฐฯ ขณะที่อิหร่าน กำลังทำเรื่องประสานงานติดต่อกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่านเดินทางมาตรวจคุณภาพข้าวในไทย เพื่อให้เกิดการนำเข้าข้าวในอนาคต
สำหรับตลาดจีน ล่าสุดไทยได้ตกลงกับจีนในการส่งมอบข้าวล็อตสุดท้ายปริมาณ 1.3 แสนตัน ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายข้าว 1 ล้านตันของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยราคาที่ตกลงยืนยันว่าเป็นราคาที่ดี สูงพอสมควร เพราะถ้าราคาต่ำเกินไปกรมฯ ก็ไม่ขาย ทำให้การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 เดือนยุติลง โดยหลังจากนี้จะมีการเจรจารายละเอียดในการส่งมอบข้าวในส่วนของสัญญาใหม่ที่ทำไว้กับรัฐบาลชุดปัจจุบัน 1 ล้านตันแรกต่อไป
นางดวงพรกล่าวว่า ขณะนี้ข้าวในสต๊อกรัฐบาลปัจจุบันคงเหลืออยู่ 12 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวในกลุ่มพี เอ บี และซี ผสมกันอยู่ โดยกำลังทำแผนเพื่อเสนอคณะอนุกรรมการระบายข้าวที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานวันที่ 23 มี.ค.นี้ว่าจะใช้วิธีการเสนอราคาแบบใดในการเปิดประมูลข้าวดังกล่าว เพื่อให้ได้ราคาเหมาะสมที่สุด และสามารถระบายข้าวออกได้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังได้ใช้ช่องทางบริจาคในการระบายข้าวในสต๊อก โดยขณะนี้ได้ให้องค์กรภายในประเทศ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน กระทรวงยุติธรรม เสนอความต้องการข้าวเข้ามายังกรมฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปสิ้นเดือน เม.ย.นี้ โดยจะทราบปริมาณทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไร ซึ่งจะยึดหลักการบรรเทาความเดือดร้อน ไม่ใช่เพื่อการค้า โดยให้มารับข้าวที่หน้าคลังแล้วองค์กรเหล่านั้นนำไปปรับปรุงสภาพข้าวด้วยตนเอง