เริ่มพิจารณาคดีเพื่อนผู้นำโสมขาว เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เอเจนซีส์ - เพื่อนสนิทของประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องทุจริตอื้อฉาวจนนำไปสู่การถอดถอนพัคในรัฐสภา ได้ปฏิเสธข้อหาหลอกลวงและใช้อำนาจโดยมิชอบ ในวันจันทร์ (19 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของการพิจารณาคดี

ชอย ซุน-ซิล ในวัย 60 ปี ที่เป็นเพื่อนสนิทคนดังกล่าว ได้ถูกตั้งข้อหาว่าทำการกดดันให้ธุรกิจขนาดใหญ่จ่ายเงินสนับสนุนกองทุนของเธอ

อัยการได้ระบุชื่อของพัคเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด อย่างไรก็ตาม ผู้นำโสมขาวรายนี้จะยังคงได้รับการคุ้มครอง ตราบใดที่เธอยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ

พัคได้ถูกระงับการใช้อำนาจนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ตอนที่รัฐสภามีมติถอดถอนเธอ โดยจะให้เวลาศาลรัฐธรรมนูญ 180 วัน เพื่อรับรองหรือคว่ำมติดังกล่าว

ในการพิจารณาคดีที่ศาล ชอยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ทางอัยการได้ตั้งให้กับเธอ โดยทางทนายจำเลยได้แย้งว่า ชอยไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับพัคหรือจำเลยคนอื่นในคดีนี้ ทั้งยังปฏิเสธข้อหาหลอกลวงด้วย

2 อดีตผู้ช่วยประธานาธิบดีที่ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดเช่นเดียวกับชอย ไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีทั้งคู่ แต่ทนายของทั้งสองบอกกับศาลว่า พวกเขาล้วนทำไปตามคำสั่งของพัค

นอกจากนี้ ชอยยังบอกด้วยว่า เธอไม่ต้องการให้พิจารณาคดีด้วยคณะลูกขุน ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ศาลในเกาหลีใต้มักจะพิจารณาคดีอาญาด้วยคณะผู้พิพากษา ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดสินและกำหนดบทลงโทษ อย่างไรก็ตาม ในบางคดีจะมีการให้จำเลยได้เลือกว่าจะให้พิจารณาคดีด้วยคณะลูกขุนหรือไม่

ลี คยุง-แจ หัวหน้าทีมทนายของชอย ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าชอยสมรู้ร่วมคิดกับพัค และ 1 ในอดีตผู้ช่วยประธานาธิบดี “อัน ชอง-บุม” เพื่อกดดันเรียกทรัพย์สินจากบรรดากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า “แชโบล”

“เราขอย้ำว่า ไม่มีการสมรู้ร่วมคิดใดๆ ระหว่างชอยและอัน รวมถึงท่านประธานาธิบดีด้วย เรากำลังรอให้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในประเด็นนี้” ลี บอกนักข่าวหลังการพิจารณาคดี

ชอย ผู้ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะเลย นับตั้งแต่ไปสำนักงานอัยการเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ได้ถูกนำตัวไปที่ศาลโดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 คน เธอเอาแต่ก้มหน้า สวมชุดนักโทษสีเทาตัวใหญ่ที่มีหมายเลขบริเวณหน้าอก

เธอพูดอย่างแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินในระหว่างการแสดงความเห็นสั้นๆ ขณะพิจารณาคดีที่ศาล ซึ่งการพิจารณาคดีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 29 ธันวาคมนี้

พัค ผู้นำโสมขาววัย 64 ปี ลูกสาวของ พัค ชุง-ฮี ที่เคยปกครองประเทศมายาวนานถึง 18 ปี หลังจากยึดอำนาจในการทำรัฐประหารเมื่อปี 1961 เธอระบุว่า ชอยเป็นเพื่อนที่เธอมักจะหันหน้าไปพึ่งพา เวลาเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมกับขอโทษสำหรับความสะเพร่าในเรื่องความสัมพันธ์ที่เธอมีกับชอย อย่างไรก็ตาม พัค ปฏิเสธว่า เธอไม่ได้กระทำผิดใดๆ

ทนายของพัคได้แย้งในประเด็นการโหวตถอดถอน ในความเห็นที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า คดีนี้ไม่เป็นไปตามหลักพื้นฐานทางกฎหมาย ทั้งยังมีขั้นตอนที่บกพร่อง การถอดถอนนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อสงสัยที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แถมข้อหาเหล่านั้นก็ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนและพิจารณาคดี