รอยเตอร์ - อัยการเกาหลีใต้ เชื่อ ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย สมรู้ร่วมคิดในคดีทุจริตที่กำลังบ่อนทำลายคณะบริหารชุดปัจจุบันและความพยายามในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของผู้นำหญิงแดนกิมจิ คำประกาศนี้มีแนวโน้มกระตุ้นเสียงเรียกร้องให้พัคลาออก ขณะที่ฝ่ายค้านขู่ถ้าไม่ลาออกเองโดยดี จะเดินหน้าถอดถอนในสภา แต่ไม่ระบุว่า จะเริ่มต้นกระบวนการนี้เมื่อไหร่
ลี ยอง-เรียว หัวหน้าสำนักงานอัยการเขตพื้นที่ส่วนกลางของกรุงโซล แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (20) ว่า ชอย ซุน ซิล เพื่อนสนิทของพัค และอดีตผู้ช่วยประธานาธิบดี อัน ชอง-บุม ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบในการกดดันให้บริษัทต่างๆ บริจาคเงินสนับสนุนมูลนิธิที่เป็นศูนย์กลางเรื่องอื้อฉาวนี้
ลี เสริมว่า ทีมสอบสวนพิเศษสรุปจากหลักฐานที่มีทั้งหมดว่า ประธานาธิบดี พัค สมรู้ร่วมคิดกับชอย , อัน, จอง โฮ-ซอง ในระดับที่มีนัยสำคัญ
จอง ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตผู้ช่วยของพัค ถูกฟ้องว่า ให้ข้อมูลที่เป็นความลับแก่ชอย
ทั้งนี้ พัคได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญจากการฟ้องร้อง อย่างไรก็ตาม ลี สำทับว่า จะทำการตรวจสอบประธานาธิบดีต่อ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
ภายใต้รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งปัจจุบันได้รับความคุ้มครองจากการฟ้องร้อง เว้นแต่ในข้อหากบฏ กระนั้น การสรุปของอัยการ ว่า พัคมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้อาจกระตุ้นให้ฝ่ายค้านออกมาเรียกร้องให้เธอลาออกอีกคำรบ
ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านหลัก คือ เดโมเครติก กับพีเพิลส์ปาร์ตี ประกาศว่า จะผลักดันกระบวนการถอดถอนหากพัคไม่ยอมลาออก แต่ไม่ได้บอกว่า จะดำเนินการทันทีหรือไม่
คิม จุน-ซก ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดงกุก ในโซล มองว่า การแสดงความคิดเห็นของอัยการ ว่า ประธานาธิบดีรู้เห็นในคดีทุจริตทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่พัคจะถูกดำเนินการถอดถอน นอกเหนือจากความรับผิดด้านศีลธรรมและการเมือง
คิม เสริมว่า ไม่มีแนวโน้มว่า พัคจะยอมลาออกโดยสมัครใจ เนื่องจากจะทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจากการดำเนินคดี โดยวาระการทำงานของเธอจะสิ้นสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ดังนั้น ตัวเลือกเดียวสำหรับนักการเมืองโดยอิงกับกระแสสังคมที่ติดลบสุดขีด คือ ดำเนินการถอดถอน
ทำเนียบประธานาธิบดีไม่ได้แสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ ส่วนลีก็ไม่ได้เผยว่า อัยการจะสอบปากคำพัคเมื่อใด
ยู ยอง-ฮา ทนายความของพัค กล่าวเพียงว่า คำประกาศของอัยการ “น่าเสียใจอย่างมาก”
พัคนั้นปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้ลาออกเพื่อรับผิดชอบเรื่องอื้อฉาวนี้ แต่กล่าวขอโทษต่อสาธารณชนสองครั้ง โดยบอกว่า เรื่องทั้งหมดเป็นความบกพร่องของเธอ และเธอพยายามขอความช่วยเหลือจากภาคธุรกิจ เนื่องจากเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแม้แต่น้อย
ในส่วนชอยถูกกล่าวหาว่าร่วมกับอัน กดดันกลุ่มกิจการใหญ่ที่สุดของประเทศนับสิบแห่งให้ช่วยระดมเงินบริจาค 65.59 ล้านดอลลาร์ ให้มูลนิธิที่ไม่หวังผลกำไร 2 แห่งที่เธอควบคุม
ตำแหน่งของพัคสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นจากข้อกล่าวหาว่า ชอยใช้ความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีแทรกแซงกิจการของรัฐและใช้อิทธิพลอย่างไม่เหมาะสม ส่วนอันและจองลาออกเมื่อปลายเดือนที่แล้ว หลังจากวิกฤตนี้ดำดิ่งย่ำแย่ลงทุกที
ประชาชนนับแสนร่วมชุมนุมในกรุงโซลเมื่อวันเสาร์ (19) หรือช่วงสุดสัปดาห์เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันเพื่อประท้วงพัค ซึ่งถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้นับจากทศวรรษ 1980
อนึ่ง แม้พัครับปากให้ความร่วมมือในการสอบสวน แต่กลับขอเลื่อนแผนการซักถามของอัยการเพื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านกฎหมายในการแต่งตั้งอัยการพิเศษรับโอนคดีนี้จากอัยการรัฐ รวมทั้งขยายผลการสอบสวน โดยคาดว่า อัยการพิเศษจะเริ่มทำงานตั้งแต่เดือนหน้า