เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ เผย พร้อมยอมรับผลโหวตถอดถอน ซึ่งเกือบแน่นอนแล้วว่าจะผ่านความเห็นชอบของสภา หลังสมาชิกขบถในพรรครัฐบาลราว 30 คน ประกาศเจตนารมณ์ร่วมมือกับฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีหญิงผู้อื้อฉาวยังยืนกรานไม่ลาออกทันที ขณะที่เหล่าประธานแชโบลที่ไปให้ปากคำต่อสภา ยอมรับว่า ไม่อาจปฏิเสธคำขอของรัฐบาลได้ แต่ไม่เคยขอสิทธิพิเศษใดๆ เป็นการแลกเปลี่ยน
ชุง จิน-ซุค ผู้นำพรรคเซนูรีในรัฐสภา เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (6) ระบุ ประธานาธิบดี พัคได้บอกกับตนว่า แม้สภาผ่านญัตติถอดถอน แต่เธอจะรอฟังคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลา 6 เดือน
ระหว่างการพบกันนาน 1 ชั่วโมง ชุงยังบอกกับพัค ว่า ความไม่พอใจของประชาชนบีบให้พรรคเซนูรี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ ต้องยกเลิกข้อเสนอก่อนหน้านี้ ที่ให้เธอลาออกโดยสมัครใจในเดือนเมษายนปีหน้า
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีใต้นับล้านคนออกไปชุมนุมขับไล่พัคในกรุงโซล และเมืองต่างๆ ทุกสุดสัปดาห์ และในวันเสาร์ที่ผ่านมา (3) ผู้ประท้วงเหล่านี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่พอใจข้อเสนอดังกล่าวของพรรคเซนูรี เนื่องจากเห็นว่าเป็นความพยายามในการซื้อเวลาให้พัค และหลีกเลี่ยงกระบวนการถอดถอน
ด้วยเหตุนี้ พรรคเซนูรีจึงต้องยกเลิกข้อเสนอนั้น และประกาศให้สมาชิกพรรคโหวตญัตติถอดถอนที่จะมีขึ้นวันศุกร์นี้ (9) อย่างอิสระ
ฮวาง ยอง-เชิล หนึ่งในสมาชิกขบถของเซนูรี เผยว่า มีการเตรียมการทุกอย่างที่จำเป็นหมดแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าญัตติถอดถอนจะผ่านความเห็นชอบ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า สมาชิกพรรคเซนูรีราว 30 คน ประกาศยกมือสนับสนุนญัตตินี้
เรื่องอื้อฉาวที่เขย่าเก้าอี้พัคมีต้นสายปลายเหตุจากเพื่อนเก่าแก่ ชอย ซุน-ซิล ที่ถูกตั้งข้อหาแทรกแซงกิจการรัฐและใช้ความสนิทชิดเชื้อกับประธานาธิบดี บีบบังคับให้แชโบล หรือกลุ่มกิจการขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ บริจาคเงินราว 70 ล้านดอลลาร์ ให้มูลนิธิ 2 แห่ง ที่เธอควบคุม
ส่วนตัวพัคเองก็กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ ที่ถูกระบุเป็น “ผู้ต้องสงสัย” ระหว่างที่ยังดำรงตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม การเป็นผู้นำประเทศทำให้พัคจะไม่ถูกตั้งข้อหาคดีอาญา ยกเว้นกรณีขายชาติ แต่การคุ้มครองนี้จะสิ้นสุดทันทีที่เธอพ้นจากตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร รัฐสภาได้เปิดการไต่สวนเหล่าประธานแชโบลแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อสืบสาวว่าคนเหล่านี้ถูกพัค, ชอย, ผู้ช่วยประธานาธิบดี กดดันให้บริจาคเงินแก่มูลนิธิของชอยเพื่อแลกเปลี่ยนกับสิทธิพิเศษหรือไม่ โดยผู้นำแชโบลแต่ละคนได้รับอนุญาตให้พาทนายความ 1 คน และเจ้าหน้าที่บริษัทอีกคนไปร่วมในการให้ปากคำด้วย รวมถึงผู้ช่วยด้านการแพทย์ 1 คน หากจำเป็น
ฮูห์ ชาง-ซู ประธานจีเอส กรุ๊ป กลุ่มกิจการค้าปลีกและพลังงาน และประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลี ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้หลักของแชโบล ยอมรับว่า ยากที่จะปฏิเสธเมื่อได้รับการร้องขอจากรัฐบาล
เจย์ วาย. ลี ผู้นำซัมซุง กรุ๊ป ซึ่งเป็น 1 ใน 9 นายใหญ่แชโบลที่ไปให้ปากคำต่อรัฐสภา ซึ่งมีการถ่ายทอดทางทีวีด้วยนั้น เผยว่า พัคเคยร้องขอระหว่างหารือแบบตัวต่อตัว ให้สนับสนุนการพัฒนาด้านวัฒนธรมและกีฬา แต่ไม่ได้ระบุตรงๆ ว่าต้องการเงิน
ลีเสริมว่า บริษัทได้รับการร้องขอการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนของสังคมบ่อยครั้ง พร้อมยืนยันว่า ซัมซุงไม่เคยขอสิ่งตอบแทนแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งรวมถึงจากการร้องขอของพัค
ทั้งนี้ ซัมซุงบริจาคเงินให้มูลนิธิสองแห่งของชอยรวม 17.46 ล้านดอลลาร์ มากกว่ากลุ่มกิจการอื่นๆ และเดือนที่ผ่านมาอัยการยังได้เข้าตรวจค้นสำนักงานของบริษัท
ลียังปฏิเสธข้อกล่าวหาจากสมาชิกรัฐสภา ที่ว่า ซัมซุงล็อบบี้เพื่อให้สำนักงานบำนาญแห่งชาติ อนุมัติการผนวกระหว่างกิจการในเครือสองแห่งเมื่อปีที่แล้ว แต่รับปากว่าซัมซุงจะจัดการแก้ไขข้อกังขาของสังคม ทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวนี้ และประเด็นด้านกฎหมายและจริยธรรม
ลี ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลผู้ก่อตั้งซัมซุง กรุ๊ป ซึ่งเป็นแชโบลใหญ่ที่สุด ยังปฏิเสธว่า ไม่รู้เห็นตอนที่บริษัทบริจาคเงินให้มูลนิธิของชอย แต่รู้ว่า สำนักงานวางกลยุทธ์สำหรับอนาคตของบริษัท ตกเป็นเป้าหมายการวิจารณ์
ทั้งนี้ ยังไม่มีผู้นำแชโบลคนใด จากทั้งหมด 53 แห่ง ที่บริจาคเงินให้มูลนิธิของชอย ถูกกล่าวหาในคดีนี้ กระนั้นมีผู้ประท้วงจำนวนมากชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาระหว่างที่ชนชั้นสูงทางธุรกิจเหล่านี้เดินทางไปให้ปากคำ และบางคนชูป้ายที่มีข้อความว่า “จับผู้นำแชโบล”