เอเอฟพี - หลังจากประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลองด์ แห่งฝรั่งเศส และเจ้าชายซาอุดีอาระเบียได้หารือกันที่กรุงปารีส วานนี้ (1 ก.ย.) ทำเนียบประธานาธิบดีแดนน้ำหอมก็เปิดเผยว่า ฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบียกำลังจะลงนามข้อตกลงจัดหาอาวุธให้เลบานอนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.6 หมื่นล้านบาท)
ผู้ช่วยประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า ถึงแม้ “วานนี้ (1) จะยังไม่มีการลงนามข้อตกลงกันแต่ทั้งสองฝ่ายได้ทำข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
ทั้งนี้ ข้อตกลงฉบับดังกล่าวมุ่งจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่กองทัพเลบานอน
โอลองด์กล่าวกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งว่า เลบานอนเป็นประเทศที่ “ยิ่งใหญ่แต่อ่อนแอ” ที่ “ต้องการความมั่นคง” ในระหว่างที่เขารับประทานมื้อค่ำร่วมกับเจ้าชาย ซัลมัน บิน อับดุล อาซิซ ซึ่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ณ ทำเนียบประธานาธิบดีเอลีเซ กรุงปารีส
โอลองด์กล่าวเสริมว่า “ซาอุดีอาระเบียกับฝรั่งเศสได้ร่วมมือกันช่วยเลบานอน โดยมีเงื่อนไขว่าประเทศนี้ก็ต้องช่วยตัวเอง เพื่อความมั่นคงของเลบานอนเอง” ขณะที่เขาไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการทำสัญญาร่วมกันครั้งนี้ตรงๆ
แดนน้ำหอมและราชอาณาจักรเศรษฐีน้ำมันตัดสินใจทำข้อตกลงกัน ในเวลาที่เลบานอนต้องรับมือกับภัยคุกคามของกลุ่มนักรบญิฮาดที่ก่อเหตุไม่สงบในบริเวณพรมแดนเลบานอน-ซีเรีย ขณะที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ออกมาเปิดเผยว่า มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียคนอพยพหนีสงครามกลางเมืองเข้าไปขออาศัยในเลบานอนมากกว่า 1 ล้านแล้ว
โอลองด์ระบุเพิ่มเติมว่า ฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบีย “ให้ความสำคัญกับสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นอย่างยิ่ง เหมือนกัน”
เจ้าชายซัลมันทรงมีกำหนดร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรี มานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศสในวันนี้ (2)
นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีกำหนดร่วมประชุมกับ โลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศแดนน้ำหอมในวันพรุ่งนี้ (3) เพื่อปรึกษากันถึงสถานการณ์ในอิรักและซีเรีย ประเทศที่กลุ่มนักรบญิฮาดกำลังแผ่อิทธิพลครอบครองดินแดนอันกว้างใหญ่ ทั้งยังคุกคามชาวคริสต์ และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โอลองด์ได้ปฏิเสธว่าไม่เคยร่วมมือกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ทั้งยังกล่าวหาว่าอัสซาดเป็น “พันธมิตรโดยพฤตินัย” ของกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (ไอเอส) ภายหลังที่ระบอบปกครองซีเรียระบุว่า ยินดีที่จะร่วมมือกับประชาคมนานาชาติเพื่อจัดการกับพวกนักรบญิฮาด
ในการแสดงความคิดเห็นผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ แห่งซาอุดีอาระเบียทรงเตือนว่า โลกตะวันตกอาจเป็นเป้าหมายต่อไปของกลุ่มนักรบญิฮาดที่กำลังโจมตีกวาดล้างในซีเรียและอิรัก หากไม่เร่งลงมือยับยั้งสถานการณ์ “โดยเร็ว”
เมื่อวันเสาร์ (30 ส.ค.) หนังสือพิมพ์ อาชาร์ก อัล-เอาซัต และสถานีโทรทัศน์ อัล-อราบิยาห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยซาอุดีอาระเบียรายงานพระดำรัสของเจ้าชาย โดยระบุว่า “ถ้าเราละเลยไม่สนใจนักรบญิฮาดพวกนี้ เรามั่นใจว่าพวกมันจะรุกคืบเข้าสู่ยุโรปภายในหนึ่งเดือน และอีกหนึ่งเดือนคงจะไปถึงอเมริกา”
เจ้าชายซัลมันเสด็จเยือนฝรั่งเศส ภายหลังที่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เจ้าชาย อับดุล อาซิซ บิน ฟาห์ด สมาชิกราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียอีกพระองค์หนึ่ง ทรงตกเป็นเหยื่อการโจรกรรมครั้งอุกอาจกลางกรุงปารีส เมื่อโจรกลุ่มหนึ่งควงปืนยาวคาลาชนิคอฟดักปล้นขบวนรถยนต์ 10 คันของพระองค์ เชิดเงินสดไปอย่างน้อย 250,000 ยูโร (ราว 10.7 ล้านบาท) ทั้งยังมีรายงานว่าคนร้ายได้ขโมยเอกสารลับติดมือไปด้วย