เอเอฟพี - รัฐสภาฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดี(19พ.ค.) เห็นชอบขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ครอบคลุมศึกยูโร 2016 และจักยานทางไกลตูร์ เดอ ฟรองซ์ หลังบังคับใช้มาตั้งแต่ถูกนักรบญิฮัดโจมตีกรุงปารีสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
หลังจากได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในวันพฤหัสบดี(19พ.ค.) สภาผู้แทนราษฎรก็ยืนยันเห็นชอบขยายมาตรการดังกล่าว ด้วยคะแนน 46 ต่อ 20 เสียง
"ภัยคุกคามก่อการร้ายยังคงอยู่ในระดับสูง และฝรั่งเศส เช่นเดียวกับอียู คือหนึ่งในเป้าหมาย" แบร์กนาร์ กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส กล่าวก่อนการลงคะแนน
ส่วนนายมานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีบอกก่อนหน้านี้ว่าไม่มีคำถามเกี่ยวกับการยกเลิกทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ซึ่งคาดหมายว่าจะดึงดูดแฟนบอลมากกว่า 2 ล้านคนมายังฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน ถึง 10 กรกฏาคมนี้
ขณะเดียวกันก็คาดหมายว่าจะมีผู้คนอีกหลายล้านคนเข้ามาร่วมชมการแข่งขันจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 ถึง 24 กรกฎาคม โดยในปีนี้มีระยะทางทั้งสิ้น 3,519 กิโลเมตร "การยกเลิกกิจกรรมกีฬาและวัฒนธรรมก็เท่ากับเป็นการยอมจำนนแก่ภัยคุกคามก่อการร้าย" นายวาลส์กล่าว พร้อมประกาศจะทำทุกทางเพื่อจำกัดความเสี่ยงของการถูกโจมตี
ปาทริค คัลวาร์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศส บอกกับคณะกรรมาธิการรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าฝรั่งเศสยังคงเป็นเป้าหมายของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)
นายคัลวาร์เผยว่าฝรั่งเศสมีความกังวลต่อการโจมตีรูปแบบใหม่ ที่พวกก่อการร้ายจะซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ตามพื้นที่ต่างๆซึ่งเป็นที่รวมตัวของฝูงชน โดยจะมีการโจมตีลักษณะนี้ซ้ำๆเพื่อสร้างความตื่นกลัว "ชัดเจนว่าวันนี้ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ถูกทั้งไอเอสและอัล-กออิดะห์ คุกคามมากที่สุด" เขากล่าว
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถูกกำหนดขึ้นตามหลังเหตุวินาศกรรมนองเลือดในเมืองหลวงของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปีก่อน คร่าชีวิตผู้คน 130 ศพ และได้รับการต่ออายุอีก 3 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีกำหนดหมดอายุในวันที่ 26 พฤษภาคม
มาตรการดังกล่าวเปิดทางให้ตำรวจสามารถกักบริเวณบุคคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย แต่ในการขยายเวลาหนล่าสุด ตำรวจจะไม่มีอำนาจในการตรวจค้นบ้านต่างๆโดยปราศจากหมายศาล ดังเช่นที่เคยมีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนอีกแล้ว
จากการเปิดเผยของรัฐบาลเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน นับตั้งแต่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตำรวจได้ตรวจค้นอาคารบ้านเรือนราว 3,500 แห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 56 คนและมีผู้ถูกกักบริเวณ 69 คน