“ยันฮี โซล่า เพาเวอร์” จ่อลงทุนโครงการโซลาร์ รูฟท็อปเสรี เร่งศึกษาความเป็นไปได้คาดได้ข้อสรุปใน 2 เดือนข้างหน้า พร้อมลุ้น กกพ.จับฉลากโครงการโซลาร์ราชการ หลังยื่นไป 10 โครงการรวม 50 เมกะวัตต์ คาดใช้เงินรวม 700 ล้านบาท
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยันฮี โซล่า เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ สนใจที่จะลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) แบบเสรีเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ก่อนตัดสินใจภายใน 2 เดือนนี้ หลังจากบริษัทได้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ค้างท่อ 59 เมกะวัตต์แล้วเสร็จจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เมื่อปลายปีที่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองโอกาสที่จะติดโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงพยาบาลยันฮี โรงงานในเครือ และบ้านพัก คาดว่าจะผลิตไฟได้ 2 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร โดยบริษัทได้จับมือกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสนอไป 10 โครงการๆ ละ 5 เมกะวัตต์ รวม 50 เมกะวัตต์ หากไม่ติดปัญหาใดคาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะมีการจับฉลากคัดเลือกได้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังจากได้รับการร้องเรียนจนต้องเลื่อนจับฉลากมาตั้งแต่ปลายปี 2558
โดยทั้ง 10 โครงการดังกล่าว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 600 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ และเงินทุนจากกระแสเงินสดของยันฮี โซล่า เพาเวอร์เอง โดยไม่มีแผนนำบริษัท ยันฮี โซล่า เพาเวอร์เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ เพราะการลงทุนต่างประเทศจะใช้เงินลงทุนที่สูงและกฎระเบียบขั้นตอนมากกว่าในไทย
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 150 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะตั้งอยู่ในจังหวัดนครปฐม พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี เป็นต้น