“คมนาคม” ยิ้มรับ ม.44 ปลดล็อก EIA ดันประมูลมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจนบุรี และบางปะอิน-โคราช” ฉลุยครบในปีนี้ ส่วนรถไฟทางคู่ 4 สาย และรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ จ่อชง ครม.ขออนุมัติพร้อมลุยหาผู้รับเหมา เทกระจาดประมูลงานมูลค่ารวมกว่า 1.3 แสนล้าน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 แก้กฎหมายสิ่งแวดล้อม ให้สามารถดำเนินการหาเอกชนผู้รับผิดชอบโครงการได้ ระหว่างรอผลการพิจารณา EIA ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินโครงการของกระทรวงคมนาคมที่ศึกษาแล้วเสร็จและมีความพร้อมในการประกวดราคา จะสามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติโครงการคู่ขนานไปได้ และหาก ครม.อนุมัติ หน่วยงานเจ้าของโครงการจะประกวดราคาหาผู้รับเหมารอไว้ก่อนเมื่อ EIA ผ่านค่อยลงนามสัญญา
โดยในส่วนของแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน ปี 2558-2559 จำนวน 20 โครงการ วงเงินรวมประมาณ 1.79 ล้านล้านบาทนั้น ล่าสุด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความคืบหน้า ซึ่งส่วนใหญ่โครงการยังเป็นไปตามแผน แม้จะไม่มี ม.44 มาช่วยเรื่องลดเวลาการรอผล EIA อนุมัติก่อนเสนอ ครม.ก็ตาม แต่ยอมรับว่ามีโครงการที่ได้รับประโยชน์จาก ม.44 คือ รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน EIA
เช่น มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 55,620 ล้านบาท อยู่ระหว่างทำทบทวนรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(EIA) ใหม่เพราะเป็นข้อมูลค่อนข้างเก่า โดยจะนำข้อมูลเดิมมาปรับปรุงในส่วนพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนสายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงิน 84,600 ล้านบาทนั้น มีการปรับแบบบางส่วน จึงต้องสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมและทำ EIA ในจุดที่แก้ไข เพราะแบบเดิมบางส่วนขวางทางน้ำ และบางส่วนเปลี่ยนแปลงไปตามการร้องเรียนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่ง ครม.อนุมัติโครงการมอเตอร์เวย์ไปแล้ว ดังนั้น หลังจากนี้กรมทางหลวงสามารถทำทีโออาร์ เปิดประมูลหาผู้รับเหมาได้เลย แต่จะลงนามสัญญาได้เมื่อ EIA ได้รับอนุมัติแล้ว
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดรางความกว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) ขณะนี้อยู่ที่ EIA จำนวน 2 เส้นทาง คือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 24,918.74 ล้านบาท และนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 20,036 ล้านบาท ซึ่งจะนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปคู่ขนาน หากบอร์ด สศช.เห็นชอบในเดือน เม.ย.ได้จะเสนอ ครม.ขออนุมัติต่อไปในต้น พ.ค.นี้ ส่วนทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ วงเงิน 29,853 ล้านบาท และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,290 ล้านบาท สภาพัฒน์ฯ ให้ความเห็นชอบแล้ว และเสนอ ครม.ไปก่อนแล้ว
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงินลงทุนรวม 131,171.94 ล้านบาท ซึ่งต้องเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่อขยายเส้นทางอีก 5 กม. ถึงถนนวงแหวนด้านใต้นั้น หากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบ จะเสนอเข้า ครม.ขออนุมัติโครงการได้ก่อนเช่นกัน
นายอาคมกล่าวว่า การมี ม.44 เรื่อง EIA ช่วยให้โครงการต่างๆ ที่พร้อมดำเนินงานไม่ค้างที่กระทรวง เพราะต้องรอ EIA ผ่านก่อน โดยจะสามารถเสนอ ครม.เพื่อขออนุมัติเปิดประมูลไว้ก่อน โดยมีเงื่อนไขที่ผู้รับเหมาต้องเข้าใจและยอมรับ คือจะลงนามสัญญาได้เมื่อได้รับความเห็นชอบเรื่อง EIA รวมถึงกรณี EIA ใช้เวลาพิจารณานาน จนทำให้ราคาค่าก่อสร้างมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ประมูลไว้มาก โดยในแต่ละงานจะมีค่าเคไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องขั้นตอนการทำงานของ EIA นั้นควรมีความชัดเจนมากขึ้นด้วย เช่น กำหนดระยะเวลาในการพิจารณา หากต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจะพิจารณาต่อกันอีกกี่วัน เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะพิจารณา เพื่อให้สอดคล้องกับ ม.44