xs
xsm
sm
md
lg

อุตสาหกรรมไมซ์เชื่อมโยงเกษตรอินทรีย์ ซื้อข้าวตรง 600 ตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเส็บ” ผนึกกำลัง “โครงการสามพรานโมเดล” นำ 13 พันธมิตรธุรกิจไมซ์ไทย ร่วมลงนามโครงการ “Farm to Functions” ส่งเสริมผู้ประกอบการไมซ์จัดซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์จากเกษตรกรโดยตรง เปิดโอกาสให้ภาคชุมชนเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น เบื้องต้น สั่งซื้อข้าวออแกนิกจาก “กลุ่มข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ” ไม่ต่ำกว่า 600 ตัน ใน 2 ปี

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” เปิดเผยว่า การพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นเมืองไมซ์ที่ยั่งยืนเป็นหนึ่งในการทำงานตามแผนแม่บทระยะ 5 ปี (พ.ศ.2558-2562) ของ “ทีเส็บ” ที่เน้นนโยบายการรักษาสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการงานไมซ์ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น MICE Sustainable Destination

ในปี 2558 “ทีเส็บ” จึงได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการไมซ์ในการจัดซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์จากเกษตรกรโดยตรง หรือ Farm to Functions ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากการประสานพลังของ 3 ภาคส่วน คือ รัฐบาล เอกชน และประชาชนตามนโยบายประชารัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิถีการเกษตรอย่างยั่งยืนผ่านการจัดซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์โดยตรงจากเกษตรกร รวมถึงส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไมซ์ไทยในการนำเสนอบริการด้านอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ ตลอดจนติดอาวุธให้แก่ผู้ประกอบการไมซ์ไทยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้ประกอบการ และประเทศไทย

ล่าสุด ในปี 2559 “ทีเส็บ” พร้อมด้วยพันธมิตรหลักคือ โครงการสามพรานโมเดล สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) รวมถึง 9 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติไบเทค โรงแรมพลาซ่า แอทธินี อะ รอยัล เมอริเดียน โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ โรงแรมทวิน ทาวเวอร์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ และโรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับ “กลุ่มข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ” เกษตรกรกลุ่มแรกที่เข้าร่วมโครงการฯ

ตามโครงการฯ นี้ “กลุ่มข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ” จะส่งมอบข้าวออแกนิกที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movements - IFOAM) แบบไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยผู้ประกอบการตั้งเป้าการสั่งซื้อจำนวน 300 ตันต่อปีเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 2 ปี รวมเป็นจำนวนอย่างน้อย 600 ตัน โดยเบื้องต้น เป็นการสั่งซื้อข้าวเพียงอย่างเดียวเนื่องจากเก็บรักษา และขนส่งสะดวก จากนั้นโครงการฯ ยังจะขยายผลไปสู่เกษตรอินทรีย์ประเภทอื่นๆ ต่อไป

“Farm to Functions” ก่อให้เกิดประโยชน์ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการไมซ์ได้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ลดต้นทุนในการบริหารงาน ขณะที่กลุ่มเกษตรกร หรือชุมชนมีรายได้แน่นอน 2.ด้านสังคม ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ได้บริโภคอาหารที่ดี มีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบน้อยลงจากการปลูกพืชของเกษตรกรด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ และ 3.ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน หรือ Community Engagement เกิดการกระจายรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์สู่ภาคชุมชน พัฒนาเกษตรกรให้ได้เรียนรู้การทำธุรกิจ และเปิดโอกาสให้ภาคชุมชนเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความยั่งยืนของการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

“โครงการ Farm to Functions นับเป็นโครงการแรกของโลกในการรวมกลุ่มภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไมซ์เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภาคชุมชน ส่งเสริมให้ประเทศไทยสู่การเป็น MICE Sustainable Destination ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2559 คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ และรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 คิดเป็นจำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 1,060,000 คน สร้างรายได้ 92,000 ล้านบาท” นายนพรัตน์ กล่าวสรุป



กำลังโหลดความคิดเห็น