ทอท.เตรียมเปิดประมูลก่อสร้างพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 สัญญาแรก หลัง คตร.ไฟเขียว TOR และราคากลาง คาดเริ่มตอกเข็ม ก.ค.นี้ ขณะที่บอร์ด ทอท.อนุมัติแผนแม่บทพัฒนาสุวรรณภูมิคู่ดอนเมือง (Duo Airport) ระยะกลาง, ยาว ผุดรันเวย์เส้นที่ 3, 4 รับผู้โดยสารสูงสุดไม่น้อยกว่า 120 ล้านคน/ปี 99 เที่ยวบิน/ชั่วโมง ถึงปี 2578
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2559 มีมติรับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) ซึ่งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้อนุมัติรายละเอียดการจัดทำเอกสารประกวดราคา (TOR) และราคากลาง 2 งาน ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) และงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค แล้วเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ซึ่ง ทอท.จะประกาศประกวดราคาหาผู้รับจ้างก่อสร้าง 2 สัญญานี้ภายในเดือน มี.ค. และคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ภายในเดือน ก.ค. 2559
สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะ 2 แบ่งออกเป็น 7 งาน ได้แก่ 1. งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก)
2. งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) 3. งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก 4. งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค
5. งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) 6. งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) 7. งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน
***อนุมัติแผนแม่บทพัฒนาสุวรรณภูมิรับผู้โดยสารสูงสุดไม่น้อยกว่า 120 ล้านคน/ปี
นอกจากนี้ บอร์ด ทอท.ยังได้เห็นชอบแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ฉบับปรับปรุง) ซึ่งจะพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง (Duo Airport) ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11, 12 และนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยพัฒนา Airside และ Landside ให้มีความสมดุล ซึ่งจากการคาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศ พบว่าในปี 2563 และปี 2568 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการจำนวน 71.38 ล้านคน และ 86.18 ล้านคน ตามลำดับ และปี 2578 จะเพิ่มเป็น 120.30 ล้านคน ส่วนเที่ยวบินในปี 2563 และปี 2568 มีเที่ยวบินจำนวน 393,785 และ 449,044 เที่ยวบิน และเพิ่มเป็น 561,332 เที่ยวบินในปี 2578 ด้านสินค้าปี 2563 และปี 2568 มีสินค้ารวม 1.39 และ 1.54 ล้านตัน ตามลำดับ และในปี 2578 จะมีปริมาณ 1.89 ล้านตัน
โดยแผนแม่บทได้กำหนดการพัฒนาและการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1. แผนพัฒนาระยะสั้น หรือเฟส 2 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้ไม่น้อยกว่า 79 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 90 ล้านคนต่อปี ถึงปี 2568 โดยจะมีงานก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 (รันเวย์ 3) งานปรับปรุงคุณภาพดินสำหรับลานจอดอากาศยาน งานก่อสร้างลานจอดอากาศยาน 14 หลุมจอดพร้อมระบบทางขับ งานก่อสร้างอุโมงค์ส่วนต่อขยายไปยังอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 ในกลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร จะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบิน A, B
2. แผนพัฒนาระยะกลาง เพิ่มขีดความสามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้ไม่น้อยกว่า 89 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 105 ล้านคนต่อปี ไปถึงปี 2573 โดยจะมีงานก่อสร้างลานจอดอากาศยาน จำนวน 14 หลุมจอดพร้อมระบบทางขับ งานก่อสร้างอุโมงค์ส่วนต่อขยายด้านทิศใต้ และการปรับปรุงคุณภาพดินสำหรับทางวิ่งเส้นที่ 4 เป็นต้น ส่วนกลุ่มงานอาคารผู้โดยสารมีกลุ่มงานอาคารผู้โดยสารมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2
3. แผนพัฒนาระยะยาว เพิ่มขีดความสามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้ไม่น้อยกว่า 99 เที่ยวบินต่อชั่วโมงและรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 120 ล้านคนต่อปี ถึงปี 2578 มีงานก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 กลุ่มงานอาคารผู้โดยสารมีงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศใต้ เป็นต้น นอกจากนั้น จะมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภครองรับควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ บอร์ด ทอท.ได้ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากคณะกรรมการ ทอท.ได้เข้าร่วมงานเปิดการประชุมผู้บริหารระดับสูงระหว่าง New Kansai International Airport Company, Ltd (NKIAC) และ ทอท. (NKIAC-AOT Executive Meeting 2016) โดย ทอท.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างวันที่ 15-19 ก.พ. 2559 ณ คุ้มพญา รีสอร์ทแอนด์สปา เซ็นทารา บูทิค คอลเลคชั่น จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของ ทอท.และ NKIAC และส่งเสริมการดำเนินงานภายใต้กรอบการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน (Strategic Cooperation Agreement)
