“คมนาคม” เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางปีใหม่ 59 กำชับสนามบินดอนเมืองต้องมีแท็กซี่บริการเพียงพอ ส่วนสถานีรถไฟ สถานี บขส.ต้องสะอาด เพื่อให้ประชาชานเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาด้วยความสุข ด้าน ทอท.เตรียมเปิดใช้อาคาร 2 ดอนเมือง วันที่ 24 ธ.ค.นี้ บางส่วนเพื่อลดความแออัดช่วงปีใหม่ โดยไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์, ไทยสมายล์ ให้บริการ
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ว่าที่ประชุมได้กำชับในการตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ในการอำนวยความสะดวก การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 อย่างมีความสุข สะดวก สะอาดและปลอดภัย โดยให้นำปัญหาที่เกิดขึ้นในการให้บริการปีใหม่ปี 2558 ที่ผ่านมามาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2559 ไม่มีปัญหาและประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด เช่น บริการรถแท็กซี่ในสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิจะต้องมีจำนวนเพียงพอต่อผู้ใช้บริการ ขสมก.มีการจัดรถเสริมบริการจากสนามบินเพื่อเข้าเมือง เช่น รถ AIRPORT BUS จากสนามบินดอนเมือง-สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต และสนามบินดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น
“เรามีสถิติปีที่แล้วว่ามีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนเท่าไร ซึ่งจะสามารถคาดการณ์จำนวนผู้ใช้บริการทั้ง สนามบิน รถไฟ รถ บขส.ในปีนี้ได้ และสามารถจัดบริการอื่นๆ รองรับให้เพียงพอ ส่วนสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ จะต้องดูแลความเรียบร้อย ห้องน้ำต้องสะอาด ต้องกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลให้เต็มที่ ส่วนผู้บริหารทุกหน่วยงานให้แสตนบาย และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยให้บริการตามจุดต่างๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ให้ทำหน้าที่อย่างมีความสุขด้วย เป็นการทำความเข้าใจและให้ทุกคนตื่นตัวในการทำหน้าที่ให้บริการประชาชนในเทศกาลปีใหม่ 59” นายชาติชายกล่าว
ส่วนบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รายงานว่าจะเปิดพื้นที่ให้บริการอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง ในวันที่ 24 ธ.ค. 2558 เพื่อลดความแออัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีสายการบินที่ย้ายมาให้บริการจำนวน 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยสมายล์ โดยภายในอาคารผู้โดยสารจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร สายพานรับกระเป๋า จอแสดงข้อมูลตารางการบิน รถเข็นกระเป๋า และห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ เป็นต้น
ส่วนบริการรถโดยสารสาธารณะ จะจัดรถแท็กซี่ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมจัดเส้นทางเดินรถนั้น จัดบริการรถปรับอากาศของขสมก. 2 เส้นทาง คือ A1 เส้นทางดอนเมือง-สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต A2 เส้นทาง ดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์) และจัดเพิ่มเติม รถบัสสาธารณะ หรือ Airport Limobus Express 2 เส้นทาง คือ ดอนเมือง-เพลินจิต-สวนลุมพินี และ ดอนเมือง-ถนนข้าวสาร
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ทอท.ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยจะเปิดให้บริการแบบบางส่วน (Soft Opening) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารในวันที่ 24 ธ.ค. 2558 และลดความหนาแน่นภายในอาคาร โดยในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาจยังไม่แล้วเสร็จ เช่น ห้องน้ำบางส่วน ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงแบบและการตกแต่งร้านให้ได้มาตรฐานและสอดคล้องกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้สมบูรณ์แบบในเดือน ก.พ. 2559
โดยปัจจุบันปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสารประมาณ 90,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 29-30% และมีเที่ยวบินประมาณ 650 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อคิดเป็นต่อปีมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 28 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนเป็น 30 ล้านคนในปี 2559 ซึ่งเกินขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 18.5 ล้านคนต่อปี
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันความพร้อมของระบบต่างๆ ภายในอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 ทดม.และให้การดำเนินการเมื่อเปิดให้บริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทอท.ได้จัดให้มีการทดสอบระบบ (Trial Operations) อย่างสมจริงเมื่อวันที่ 16-18 ธ.ค. 2558 โดยจำลองสถานการณ์ผู้โดยสารเดินทางมาเช็คอิน ทำการโหลดกระเป๋าสัมภาระ ผ่านกระบวนการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระติดตัว ไปจนถึงกระบวนการตรวจบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding pass) นอกจากนั้น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐาน ท่าอากาศยานดอนเมืองใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการรักษาความปลอดภัย ด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศ และด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจพื้นที่เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2558
อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานดอนเมืองมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปี และ ทอท.มีแผนที่จะปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 สำหรับรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ รวมทั้งโครงการพัฒนาระยะ 3 ซึ่งจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิมซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เปิดใช้งาน การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ (Junction Terminal) โดยจะมีการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างตัวอาคารกับสถานีรถไฟฟ้าดอนเมืองที่จะเป็นสถานีร่วมของรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทาง บางซื่อ-รังสิต และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์สายพญาไท-ดอนเมือง และการสร้างอาคารจอดรถเพื่อรองรับรถยนต์ได้อีกกว่า 3,000 คัน โดยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคนต่อปี เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณการจราจรทางอากาศที่มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต