ผู้จัดการรายวัน 360 - คิกออฟ “ทรูวิชั่นส์” สนั่น! ลั่นศึกเพย์ทีวีจัดเต็มคอนเทนต์กีฬาบอลไทยผ่านแพกเกจใหม่ “สนั่นบอลไทย” เอาใจลูกค้ารากหญ้าทั่วประเทศ ตามแผนยึดฐานแมสเป็นสมาชิกหลักเกิน 50% ในปีนี้ แย้มจีบ EPL ลงแพลตฟอร์ม คาดสรุปได้ก่อนฤดูกาลนี้จบลง เชื่อฐานลูกค้าพรีเมียมแข็งแกร่งขึ้น พร้อมดันฐานสมาชิกสู่ 3.9-4 ล้านราย ควบรายได้โต 2 หลัก มากกว่าปีก่อน
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าสายงานการพาณิชย์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีของคอนเท้นท์กีฬาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นในปีนี้ รวมถึงฟุตบอลลีกของไทยเองก็ได้รับความสนใจสูงมาก รวมถึงคอนเท้นท์กีฬาอื่นๆ ทำให้ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการวางแผนรับมือมาตลอดทั้งปีเพื่อดำเนินธุรกิจในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบการใช้ซื้อคอนเทนต์กีฬาและคอนเท้นท์อื่นๆ ที่ใช้มากกว่าปีก่อน หรือการตัดการวางแผนสร้างแพกเกจใหม่ๆ ออกมารองรับ โดยจะมุ่งไปยังกลุ่มเป้าหมายระดับแมสทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามทิศทางของกลุ่มทรูที่ประมูลคลื่น 4G มาได้ จนสามารถทำให้เกิดการคอนเวอร์เจนซ์เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศได้ดีขึ้น
“แผนการทำตลาดของทรูวิชั่นส์ในปีนี้จะเน้นจับกลุ่มแมสและกลุ่มเป้าหมายนิชมาร์เกตให้มากขึ้น ผ่านแพกเกจใหม่ที่ชูคอนเทนต์ขึ้นมาในราคาคุ้มค่าจากเดิมที่มีแพกเกจแบบวาไรตี้อยู่แล้ว โดยแพกเกจใหม่ที่จะออกมายังคงเป็นกลุ่มกีฬา ครอบครัวที่ใช้คอนเทนต์ชูเป็นชื่อแพกเกจ เช่น ดิสนีย์ แพกเกจ เป็นต้น ส่วนลูกค้าระดับพรีเมียมจะยังคงทำตลาดในรูปสร้างแบรนด์และทำโฆษณา รวมถึงนำเสนอในเรื่องของการบริการให้มากขึ้น”
ล่าสุดเปิดตัวแพกเกจใหม่ “สนั่นบอลไทย” ช่วยให้คนไทยเข้าถึงคอนเทนต์กีฬา รวมถึงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่ง “ทรูวิชั่นส์” ได้รับสิทธิ์เป็นผู้เผยแพร่การแข่งขันต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2017-2020 รวมถึงช้างเอฟเอคัพ และโตโยต้า ลีกคัพ ในฤดูกาล 2016 โดยลูกค้าสามารถรับชมได้ทั้ง 2 แบบ คือ สมาชิกแบบรายเดือน ราคา 299 บาทต่อเดือน และสมาชิกกล่องทรู ดิจิตอลเอชดี 2 กล่องแบบขายขาดไม่มีรายเดือน ราคา 1,690 บาท สามารถรับชมฟุตบอลไทยฟรีถึงสิ้นปี
สำหรับแพกเกจ “สนั่นบอลไทย” สามารถรับชม โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เท่ากับ “แพลทินัม แพกเกจ” โดยรับชมแบบสดๆ ครบ 9 คู่ต่อสัปดาห์ ทั้งในระบบ CATV และ DSTV ผ่าน 5 ช่องกีฬา คือ TrueSport HD2, TrueSport HD3, TrueSport2, TrueSport6 และTrue4U
บริษัทฯ พร้อมใช้งบกว่า 20 ล้านบาทในการการเปิดตัวแพกเกจใหม่นี้ มั่นใจว่าจะตอบโจทย์คอบอลไทยได้อย่างดีและช่วยให้ “ทรูวิชั่นส์” ขยายฐานสมาชิกให้เติบโตขึ้นถึง 3 แสนราย (ทั้งแบบรายเดือน กล่องขายขาด และสมาชิกในกลุ่มคอนเวอร์เจนซ์) ภายใน 3เดือนหลังจากนี้
นายพีรธนกล่าวต่อว่า “ทรูวิชั่นส์” พร้อมที่จะนำเสนอคอนเท้นท์ที่หลากหลายสู่ความเป็น “คอนเทนต์ อีส คิง” ดังนั้น ในส่วนของ EPL (ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ) จึงถือเป็นอีกคอนเทนต์ที่สนใจเช่นกัน โดยกำลังอยู่ในช่วงของการเจรจา คาดว่าจะสรุปได้ก่อนฤดูกาลนี้จบลง ส่วนรูปแบบการซื้อลิขสิทธ์ EPLครั้งนี้ “ทรูวิชั่นส์” เปิดกว้างทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะได้มาในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟหรือไม่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม มองว่าปีนี้ “เพย์ทีวี” ในส่วนของ “ทรูวิชั่นส์” จะดีขึ้น ขณะที่คู่แข่งเริ่มก้าวออกจากตลาด โดยในแง่ฐานสมาชิกของ “ทรูวิชั่นส์” คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.9-4 ล้านราย โดยมากกว่า 50% เป็นสมาชิกระดับแมสถึงระดับกลาง โดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นกว่า 7 แสนราย จากแผนการเปิดตัวแพกเกจใหม่ๆ และการทำคอนเวอร์เจนซ์ร่วมกับธุรกิจในเครือ รวมถึงผลักดันให้ลูกค้าหันมาใช้เงินในแพกเกจที่ราคาสูงขึ้น จากเดิมในปีก่อนสมาชิกปิดที่ 3.1 ล้านราย โตขึ้น 10% สูงสุดในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ โดยกว่า 30% เป็นกลุ่มแมส ส่วนรายได้ในช่วง 9 เดือนของปีก่อนอยู่ที่ 9 พันล้านบาท จึงคาดว่าในปีนี้ทั้งในแง่รายได้และสมาชิกน่าจะทำได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา