xs
xsm
sm
md
lg

NPP ฟื้นแบรนด์ “A&W” ซุ่มเจรจา QSR เสริมพอร์ตฟูด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดร.วิชัย เจริญธรรมานนท์ (ซ้าย) และ สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย (ขวา)
ผู้จัดการรายวัน360 - NPP Food บริษัทในเครือ NPP ทุ่มงบปรับลุค ขยายสาขา A&W ในคอนเซ็ปต์ “Old Friend New Look” วางเป้า 100 สาขาใน 5 ปี เล็งปั้นแบรนด์ขึ้นแท่นผู้นำ 1 ใน 3 ธุรกิจ QSR พร้อมเจรจาแบรนด์ใหม่เพิ่ม คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีความยืดหยุ่นและขวด PET บรรจุภัณฑ์พลาสติกคุณภาพสูงและถาดอาหาร รวมทั้งลงทุนในธุรกิจอาหารและธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณา เปิดเผยว่า บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ NPP ได้รับสิทธิ์เป็นผู้บริหารงานเรื่องสิทธิ์แฟรนไชส์ A&W จากสหรัฐอเมริกาต่อจาก NPP รวมถึงซื้อทรัพย์สินและสิทธิ์ในการบริหารงาน บริษัท เอ แอนด์ ดับบลิว เรสเตอรองต์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้พร้อมจะทำการรุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยเบื้องต้นบริษัทจะใช้เงินลงทุน 160 ล้านบาทในการปรับปรุงและขยายสาขา วางเป้าหมายเปิดสาขา 100 แห่งภายใน 5 ปี จากปัจจุบันมี 21 สาขา

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการรุกตลาดในครั้งนี้จะสามารถทำให้ A&W ขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของธุรกิจอาหารบริการด่วน หรือ QSR (Quick Service Restaurant) เนื่องจาก A&W เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพ ด้วยคุณภาพ รสชาติอาหาร และรูทเบียร์ อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคในประเทศมีความคุ้นเคยและให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนานกว่า 35 ปี

“นอกเหนือจากสร้างการเติบโตและพัฒนาธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แล้ว NPP ยังสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจอาหารที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงที่เศรษฐกิจดีและไม่ดี โดยตลาดธุรกิจอาหารมีมูลค่ารวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็น Restaurant chain 6 หมื่นล้านบาท และ QSR อีก 6 หมื่นล้านบาท โดยแบรนด์ที่เราเลือกมาเป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพ ตอบรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค นอกจากนี้ เอ็นพีพี ฟู้ด ยังมีแผนที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจอาหารประเภทอื่นเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา”

ดร.วิชัย เจริญธรรมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า A&W จะทำการขยายสาขาใหม่เพิ่มจำนวน 6 สาขา โดยเน้นการเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งขณะนี้บริษัทได้พื้นที่และเริ่มเข้าไปตกแต่งหน้าร้านแล้ว คาดว่าจะทยอยเปิดได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่สาขาเดิมจำนวน 21 สาขาจะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Old Friend New Look” พร้อมทั้งปรับปรุงรายการอาหารบางส่วนให้มีคุณภาพมากขึ้น มีความหลากหลายรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ A&W ในครั้งนี้จะมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย

“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเปิด A&W 100 สาขา ภายใน 5 ปี โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ 1.สาขา Full Shop ขนาด 200 ตร.ม.ที่จะเปิดในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า 2.สาขามาตรฐาน (Standard) หรือสแตนด์ อะโลน (Stand Alone) ขนาด 80-120 ตร.ม. เปิดในเขตชุมชนและเขตธุรกิจ 3.สาขาคีออสก์ (Kiosk) ขนาด 20-40 ตร.ม. เน้นพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน โดยเมนูอาหารจะมีทั้งคาวและหวานที่ปรับสูตรอาหารให้เข้ากับคนไทย เจาะกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่รู้จักและชื่นชอบรสชาติอาหารของ A&W อยู่แล้ว กับกลุ่มลูกค้าใหม่หรือกลุ่มอายุ 35 ปีลงมา ได้แก่ กลุ่ม Young Adult กลุ่ม First Jobber และกลุ่มครอบครัว”

นายเควิน บาซเนอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร A&W Restaurant Inc. เผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบดับเบิล เนื่องจาก A&W มีธุรกิจอยู่ในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ปี 1963 มากกว่า 300 แห่ง โดยจะเร่งรุกตลาดในประเทศที่มีสาขา A&W อยู่แล้ว เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงกำลังเจรจาเปิดตลาดในฟิลิปปินส์และกลุ่ม CLMV ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม เพื่อขยายสาขาในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าภายใน 5-7 ปีข้างหน้า



กำลังโหลดความคิดเห็น