นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) เผยแนวโน้มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไปได้สวย ขยายตัวตามสินค้าอุปโภคบริโภค มั่นใจรายได้ปีนี้โตอย่างน้อย 20% เดินหน้าเพิ่มออร์เดอร์ และฐานลูกค้าใหม่ ขณะที่ธุรกิจอาหารลงทุนใน A&W เรียบร้อยแล้ว ลุยปรับโฉมขยายสาขาทั่วเมือง วางเป้าขึ้นชั้นผู้นำฟาสต์ฟูด 1 ใน 3 ของไทย พร้อมเจรจาแบรนด์ใหม่เพิ่ม คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต จำหน่าย บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีความยืดหยุ่น และขวด PET บรรจุภัณฑ์พลาสติกคุณภาพสูง และถาดอาหาร รวมทั้งลงทุนในธุรกิจอาหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยังสามารถเติบโตได้ดีในปีนี้ ตามการขยายตัวของธุรกิจผลิต และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทต่างๆ ซึ่งมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 20% โดยแผนการดำเนินงานจะมุ่งเน้นขยายปริมาณการผลิต บรรจุภัณฑ์ถาดพลาสติก และขวด PET ให้รองรับการใช้งานของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
ขณะเดียวกัน จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มทั้งด้านคุณภาพ และความสวยงาม ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีนวัตกรรมด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ถาดอาหารที่ผลิตจากพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ตลอดจนพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องจักรให้ทันสมัย รองรับเทรนด์ของบรรจุภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยน และพัฒนาตลอด
“บริษัทพยายามรักษามาตรฐานการผลิต และเพิ่มคุณภาพให้แก่บรรจุภัณฑ์ของลูกค้ามาโดยตลอด ทำให้ NPP ค่อนข้างได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และส่งผลให้ในปีนี้กลุ่มลูกค้าเดิมของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มออเดอร์จากเดิม และมีการเจรจากับลูกค้าใหม่เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน จากออเดอร์ และจำนวนลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าการเติบโตจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้ที่วางไว้ยังไม่ได้รวมการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนในปีนี้” นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับธุรกิจอาหารซึ่งดำเนินการโดยบริษัทในเครือ ประกอบด้วย บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ไทยลักซ์ ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ขณะนี้ บริษัทได้เข้าลงทุนในร้านอาหารฟาสต์ฟูดแบรนด์ชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา “A&W” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะปรับภาพลักษณ์ให้แก่ A&W และรุกตลาดมากยิ่งขึ้น เบื้องต้น จะทำการขยายสาขาใหม่เพิ่ม จำนวน 6 สาขา โดยเน้นการเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งขณะนี้ บริษัทได้พื้นที่ และเริ่มเข้าไปตกแต่งหน้าร้านแล้ว คาดว่าจะทยอยเปิดได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะที่สาขาเดิม จำนวน 21 สาขา จะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดภายใต้คอนเซ็ปต์ “Old Friend New Look” พร้อมทั้งปรับปรุงรายการอาหารบางส่วนให้มีคุณภาพมากขึ้น มีความหลากหลายรองรับต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ A&W ในครั้งนี้จะมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย
“เราวางเป้าหมายให้ A&W เป็นร้านฟาสต์ฟูดชั้นนำ 1 ใน 3 ของประเทศ และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย หลังจากเรามีการปรับปรุงภาพลักษณ์ และความพร้อมของสาขาต่างๆ เรียบร้อยแล้ว A&W จะรุกตลาดอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าลงทุนในร้านอาหารประเภทอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจ และมีโอกาสในการเติบโต แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้” นายสุรพงษ์ กล่าว