“ซีพีเอฟ” ผู้ดำเนินธุรกิจ “ซีพี ฟู้ดเวิลด์” เดินหน้าสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านอาหารทุกรูปแบบ รุกขยายธุรกิจให้บริการอาหารกล่องในรูปแบบ Meal Box และ Snack Box เพิ่มขึ้นในต้นปี 2559 ต่อยอดจากธุรกิจศูนย์อาหาร และ Catering ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารและการบริการที่เป็นมืออาชีพ
นายอมร อำไพรุ่งเรือง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” ซึ่งดูแลธุรกิจการให้บริการด้านอาหาร” ซีพี ฟู้ดเวิลด์” กล่าวว่า บริษัทฯ ชูความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารครบวงจร ซึ่งสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตอาหารถูกอนามัย ได้มาตรฐาน สามารถรับประกันคุณภาพและตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่อาหารอย่างเป็นระบบ เร่งขยายธุรกิจบริการอาหารใน 2 รูปแบบประกอบด้วย ธุรกิจศูนย์อาหาร (Food Court) ภายใต้แบรนด์ “ซีพี ฟู้ดเวิลด์” และธุรกิจจัดเตรียมและเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มนอกสถานที่ (Catering) โดยมีแผนสร้างการเติบโตในปี 2559 ด้วยการยขยายสู่ธุรกิจอาหารกล่องเพื่อก้าวเป็นผู้ให้บริการด้านอาหารทุกรูปแบบ (Food Service Provider) เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและร่วมพัฒนาตลาดฟู้ดเซอร์วิสไทยสู่มาตรฐานสากล
นายอมร กล่าวว่า บริษัทฯ มองธุรกิจผู้ให้บริการอาหารมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการด้านอาหารที่มีทั้งคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และความสะดวกรวดเร็ว โดยในปี 2559 ตั้งเป้าขยายธุรกิจศูนย์อาหารเพิ่มอีก 5 สาขา เน้นทำเลที่มีคนเมืองใช้บริการหนาแน่น เช่น โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน และสถาบันการศึกษา มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 500 ตารางเมตร ถึง 2,000 ตารางเมตร และตั้งเป้าขยายธุรกิจ Catering เพิ่มอีก 6 แห่ง โดยเน้นเจาะลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ
“ในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดให้บริการด้านอาหารกล่อง ครอบคลุมทั้งอาหารหลักและอาหารว่าง (Meal Box/Snack Box) โดยใช้จุดแข็งจากธุรกิจ Catering ของบริษัทฯ ที่มีทีมนักโภชนาการให้คำปรึกษาลูกค้าและคิดพัฒนาเมนูอาหารใหม่ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน เช่น เมนูอาหารและของว่างเพื่อสุขภาพ เน้นเจาะลูกค้ากลุ่มสายการบิน สถาบันการศึกษา ผู้จัดการประชุมและสัมมนา โดยในปีแรกจะเน้นลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายอมรกล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจศูนย์อาหารในโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษารวม 5 สาขา โดยมีสาขาแรกที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชรุณย์, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, ศูนย์อาหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีและเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดศูนย์อาหารแห่งใหม่เป็นสาขาที่ 5 ที่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยชูความหลากหลายของเมนูอาหารของแบรนด์ “ซีพี” และแบรนด์ชั้นนำ ตั้งแต่อาหารหลัก อาหารทานเล่น ขนม เครื่องดื่ม ผลไม้ ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องคุณภาพ ถูกอนามัย และความสะดวกรวดเร็ว มีการตรวจสอบคุณภาพและความสะอาดอย่างใกล้ชิดจากทีมงานภายในและภายนอก
ส่วนธุรกิจบริการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการเสิร์ฟอาหารถึงห้องนั้น บริษัทฯ มีจุดแข็งตรงที่การมีทีมเชฟและนักโภชนาการที่ทำงานร่วมกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาและพัฒนาเมนูอาหารขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เน้นเมนูอาหารเฉพาะด้านโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีทั้งความอร่อย มีคุณค่า ปลอดภัย ถูกอนามัย และการบริการแบบมืออาชีพ ซึ่งปัจจุบันฯ บริษัทให้บริการ Catering แก่ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สนามแข่งรถบุรีรัมย์, โรงพยาบาลพระราม 9 และโรงพยาบาลเอกชล 1 จังหวัดชลบุรี
นายอมรกล่าวว่า ผู้บริโภคปัจจุบันต้องการความสะดวกรวดเร็วควบคู่กับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย ได้มาตรฐานเชื่อใจได้ ดังนั้น ธุรกิจ Food Service Provider จึงเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญการเป็นผู้ผลิตอาหารครบวงจรของบริษัทฯ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ผ่านการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคที่มีความต้องการเฉพาะด้านในปัจจุบันได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
นายอมร อำไพรุ่งเรือง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” ซึ่งดูแลธุรกิจการให้บริการด้านอาหาร” ซีพี ฟู้ดเวิลด์” กล่าวว่า บริษัทฯ ชูความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารครบวงจร ซึ่งสามารถควบคุมคุณภาพการผลิตอาหารถูกอนามัย ได้มาตรฐาน สามารถรับประกันคุณภาพและตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่อาหารอย่างเป็นระบบ เร่งขยายธุรกิจบริการอาหารใน 2 รูปแบบประกอบด้วย ธุรกิจศูนย์อาหาร (Food Court) ภายใต้แบรนด์ “ซีพี ฟู้ดเวิลด์” และธุรกิจจัดเตรียมและเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มนอกสถานที่ (Catering) โดยมีแผนสร้างการเติบโตในปี 2559 ด้วยการยขยายสู่ธุรกิจอาหารกล่องเพื่อก้าวเป็นผู้ให้บริการด้านอาหารทุกรูปแบบ (Food Service Provider) เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและร่วมพัฒนาตลาดฟู้ดเซอร์วิสไทยสู่มาตรฐานสากล
นายอมร กล่าวว่า บริษัทฯ มองธุรกิจผู้ให้บริการอาหารมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการด้านอาหารที่มีทั้งคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และความสะดวกรวดเร็ว โดยในปี 2559 ตั้งเป้าขยายธุรกิจศูนย์อาหารเพิ่มอีก 5 สาขา เน้นทำเลที่มีคนเมืองใช้บริการหนาแน่น เช่น โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน และสถาบันการศึกษา มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 500 ตารางเมตร ถึง 2,000 ตารางเมตร และตั้งเป้าขยายธุรกิจ Catering เพิ่มอีก 6 แห่ง โดยเน้นเจาะลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ
“ในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมเปิดให้บริการด้านอาหารกล่อง ครอบคลุมทั้งอาหารหลักและอาหารว่าง (Meal Box/Snack Box) โดยใช้จุดแข็งจากธุรกิจ Catering ของบริษัทฯ ที่มีทีมนักโภชนาการให้คำปรึกษาลูกค้าและคิดพัฒนาเมนูอาหารใหม่ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน เช่น เมนูอาหารและของว่างเพื่อสุขภาพ เน้นเจาะลูกค้ากลุ่มสายการบิน สถาบันการศึกษา ผู้จัดการประชุมและสัมมนา โดยในปีแรกจะเน้นลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายอมรกล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจศูนย์อาหารในโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษารวม 5 สาขา โดยมีสาขาแรกที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชรุณย์, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, ศูนย์อาหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีและเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ เปิดศูนย์อาหารแห่งใหม่เป็นสาขาที่ 5 ที่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยชูความหลากหลายของเมนูอาหารของแบรนด์ “ซีพี” และแบรนด์ชั้นนำ ตั้งแต่อาหารหลัก อาหารทานเล่น ขนม เครื่องดื่ม ผลไม้ ตอบโจทย์ความต้องการเรื่องคุณภาพ ถูกอนามัย และความสะดวกรวดเร็ว มีการตรวจสอบคุณภาพและความสะอาดอย่างใกล้ชิดจากทีมงานภายในและภายนอก
ส่วนธุรกิจบริการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการเสิร์ฟอาหารถึงห้องนั้น บริษัทฯ มีจุดแข็งตรงที่การมีทีมเชฟและนักโภชนาการที่ทำงานร่วมกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาและพัฒนาเมนูอาหารขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เน้นเมนูอาหารเฉพาะด้านโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีทั้งความอร่อย มีคุณค่า ปลอดภัย ถูกอนามัย และการบริการแบบมืออาชีพ ซึ่งปัจจุบันฯ บริษัทให้บริการ Catering แก่ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สนามแข่งรถบุรีรัมย์, โรงพยาบาลพระราม 9 และโรงพยาบาลเอกชล 1 จังหวัดชลบุรี
นายอมรกล่าวว่า ผู้บริโภคปัจจุบันต้องการความสะดวกรวดเร็วควบคู่กับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัย ได้มาตรฐานเชื่อใจได้ ดังนั้น ธุรกิจ Food Service Provider จึงเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญการเป็นผู้ผลิตอาหารครบวงจรของบริษัทฯ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ผ่านการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคที่มีความต้องการเฉพาะด้านในปัจจุบันได้อย่างตรงจุดมากขึ้น