อุดรธานี - “ซีพีเอฟ” ส่งมอบโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน พร้อมและมอบเบี้ยยังชีพอาหาร และเครื่องอุปโภคบริโภคแก่คนชราผ่านกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย ปิดท้ายด้วยการมอบผ้าห่มโครงการซีพีเอฟเคียงข้างคนไทยช่วยภัยหนาวต่อเนื่องปีที่ 6
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี นายดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบริษัทโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ พร้อมคณะผู้บริหารซีพีเอฟได้ร่วมกันส่งมอบโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบผ้าห่มแก่ผู้ประสบภัยหนาวตามโครงการการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โครงการซีพีเอฟคืนสุขสู่ผู้สูงวัย และโครงการซีพี-ซีพีเอฟ เคียงข้างคนไทยช่วยภัยหนาว โดยงานนี้นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน นักเรียน ให้การต้อนรับและเป็นประธานในพิธี
นายดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ คุณค่า และความปลอดภัยสุดให้คนไทยทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย ด้วยเชื่อมั่นว่าเมื่อประชาชนได้รับโภชนาการที่ดี ก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง มีพลังในการนำประเทศสู่ความเข้มแข็ง
ดังนั้น ซีพีเอฟจึงส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่คนไทยผ่านโครงการเพื่อสังคมที่หลากหลาย เช่น โครงการ ซีพีเอฟ อิ่มสุข ปลูกอนาคต และโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนที่จับมือกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์และเหล่าพนักงานนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในการผลิตอาหารปลอดภัย ถ่ายทอดสู่กลุ่มเยาวชนทั่วประเทศ เพื่อลดภาวะทุพโภชนาการ และสร้างแหล่งเรียนรู้เพื่อการเลี้ยงชีพในอนาคต
“การลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานีครั้งนี้ ซีพีเอฟร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ได้ส่งมอบโรงเรือนเลี้ยงไก่ตามโครงการฯ ซึ่งดำเนินการมาเป็นปีที่ 26 แล้ว นับตั้งแต่ปี 2532 เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่เยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าและมีประโยชน์”นายดิเรกกล่าวและว่า
ในโอกาสเดียวกันนี้ได้มอบเบี้ยยังชีพ อาหาร และเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้สูงวัย ตามโครงการกองทุนซีซีเอฟคืนสุขผู้สูงวัย ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ตามนโยบายประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงวัยที่เคยทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ได้มีความสุขในบั้นปลาย และด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงจึงได้ถือโอกาสนี้นำผ้าห่มมามอบให้เพื่อช่วยคลายหนาวให้แก่นักเรียนและผู้สูงวัยในพื้นที่ด้วย
นายดิเรกกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนได้ดำเนินการมากกว่า 26 ปีสำหรับในปี 2559 มีการส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพิ่มอีก 50 โรงเรียนรวมเป็น 602 โรงเรียนทั่วประเทศโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณไปแล้วกว่า 82 ล้านบาท โครงการเลี้ยงไก่ไข่ ส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 120,000 คน มีสุขภาพอนามัยที่ดีเติบโตสมวัย และมีครูกว่า 5,000 คน ตลอดจนชุมชน 900 แห่งทั่วประเทศไทยได้รับประโยชน์
ซีพีเอฟได้ส่งมอบโรงเรือนเลี้ยงไก้ไข่ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย รวมถึงพ่อพันธุ์ไก่ไข่ ทำให้นักเรียนได้รับการบริโภคไข่ไก่สดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 มื้อได้เรียนรู้การผลิตอาหารปลอดภัยด้วยตนเอง แล้วนำผลผลิตไก่สดที่ได้มาแบ่งปันบริโภคกันภายในโรงเรียน นอกจากนั้น เยาวชนเหล่ายังสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนา และต่อยยอดเลี้ยงชีพได้ในอนาคต
นอกจากการส่งเสริมการเข้าถึงอาหารคุณภาพในกลุ่มเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตแล้ว กลุ่มผู้สูงวัยเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ซีพีเอฟได้เข้าไปส่งเสริมการบริโภคอาหารสุขภาพผ่านโครงการกองทุนซีพีเอฟคืนสุขผู้สูงวัย โดยบริษัทฯ ได้เข้าไปดูแลผู้สูงวัยที่มีฐานะยากจนถูกลูกหลานทอดทิ้งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และไม่มีผู้อุปการะดูแล ซึ่งแต่ละเดือนจะมีผู้บริหารและพนักงาน ซีพีเอฟ จิตอาสาได้ผลัดเปลี่ยนกันลงพื้นที่ไปเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงวัยที่เข้าร่วมโครงการกว่า 716 คนทั่วประเทศด้วยงบประมาณ 54 ล้านบาท
สำหรับกิจกรรมสุดท้ายในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ คือ พิธีมอบผ้าห่มโครงการซีพีเอฟ เคียงข้างคนไทยช่วยภัยหนาวปีที่ 6 กิจกรรมภายใต้โครงการกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ด้วยการส่งมอบความอบอุ่นให้พี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยหนาวในภาคเหนือและภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2558 นี้ ซีพีเอฟได้จัดเตรียมผ้าห่มจำนวน 6,600 ผืน มูลค่ากว่า 1,040,000 บาท เดินสายช่วยผู้ประสบภัยหนาว ทำให้ยอดรวมการสนับสนุนผ้าห่มตลอด 6 ปีที่ผ่านมามีกว่า 200,000 ผืน ด้วยงบประมาณ 45.24 ล้านบาท