MGR Online - เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังจนถึงวันเกิดเหตุ กรณีคนร้ายบุกขโมยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ภายในบ้านของ “นางอังคณา” ญาติของเจ้าสัวซีพี เชื่อคนร้ายอาจมีมากกว่า 1 คน ขณะเดียวกัน ยังต้องรอผู้เสียหายเดินทางกลับมาให้ปากคำเพิ่มเติม
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ ได้เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกขึ้นบ้านนางอังคณา เจียรวนนท์ อายุ 63 ปี ญาติของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัทในเครือซีพี ได้ทรัพย์สินไปจำนวนกว่า 10 ล้านบาท ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันทำงาน โดยมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 58 จนถึงวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นคนในหรือไม่นั้น เนื่องจากคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้อย่างแน่นอน อีกทั้งกำแพงที่สูงกว่า 3 เมตร และการเข้าออกค่อนข้างที่จะลำบาก รวมถึงมีคนอยู่ภายในบ้านหลายคน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อให้คลี่คลายคดีได้โดยเร็ว
ส่วนรูปพรรณของทรัพย์สินที่สูญหาย ขณะนี้ได้รูปพรรณของทรัพย์สินมาบางส่วนแล้ว ขณะเดียวกันต้องรอให้เจ้าทรัพย์เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเพื่อแจ้งรูปพรรณทรัพย์สินส่วนที่เหลือ ส่วนกรณีพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะจอดอยู่บริเวณนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ขจรพงศ์กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นสำหรับทรัพย์สินที่หายไปมีจำนวนมากในระดับหนึ่ง ไม่สามารถขนออกไปคนเดียว อาจมีผู้ที่ช่วยในการขนย้ายซึ่งยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ, เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนนครบาล 5 และเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์สืบสวนนครบาล ได้มีการแบ่งงานกันทำ โดยตรวจสอบกล้อวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่มีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ โดยต้องย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 58 ซึ่งเป็นวันที่เจ้าของบ้านเดินทางไปต่างประเทศเป็นคนแรก และมีคนในบ้านทยอยเดินทางตามไป กระทั่งถึงวันที่ 3 ธ.ค. 58 ที่มีการเข้ามาแจ้งความ
ขณะเดียวกัน ยังมีการตรวจสอบไปยังโรงรับจำนำต่างๆ ว่ามีการนำทรัพย์สินที่สูญหายมาจำนำไว้หรือไม่ รวมถึงร้านขายของเก่า หรือร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่คาดว่าคนร้ายจะนำไปขาย เพราะกระเป๋าแต่ละใบมีมูลค่าค่อนข้างสูง บางใบมูลค่ากว่า 1 แสนบาท และตรวจเช็กประวัติ ของบุคคลที่อยู่ในบ้าน ขณะนั้นว่ามีใครเข้าออกนอกจากบุคคลที่อยู่ในบ้านหรือไม่
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วที่บ้านหลังดังกล่าวจะมีคนรับใช้จำนวน 6 คน แบ่งเป็นคนขับรถ 3 คน เป็นผู้ชาย แม่บ้าน 3 คน เป็นผู้หญิง และในช่วงเกิดเหตุมีอยู่เพียงแค่ 4 คน คือ คนขับรถ 2 คน แม่บ้าน 2 คน รวม 4 คนส่วนอีก 2 คนได้ลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบในเชิงลึกเกี่ยวกับเทคนิคพิเศษ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลงพื้นที่และหารายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่หายไป ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป