รักษาการ ผบช.น.เผยพบพิรุธคนในบ้านญาติเจ้าสัวซีพี หลังถูกยกเค้า 10 ล้าน เร่งตรวจสอบประหม่าตกใจหรือทำผิดจริง ยอมรับในบ้านเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด มีแค่นอกบ้าน เร่งทำแผนที่ซีซีทีวีทั่ว กทม.เพื่อหาตัวคนนร้ายง่ายขึ้นหากเกิดเหตุซ้ำ วอนคนครอบครองของกลางนำมาคืนที่ บช.น.หรือ สน.ท้องที่
วานนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกขึ้นบ้านพักนางอังคณา เจียรวนนท์ อายุ 63 ปี ญาติของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานบริษัทเครือซีพี ย่านทองหล่อ ได้ทรัพย์สินหลายรายการรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นแนวทางของชุดสืบสวนได้แบ่งกลุ่มคนร้ายไว้ 3 กลุ่ม คือ คนในบ้าน, คนนอกบ้าน และคนในบ้านร่วมมือกับคนนอกบ้าน ซึ่งชุดสืบสวนของ สน.ทองหล่อ และ บก.น.5 รวมทั้งชุดสืบของ บช.น.พยายามสืบสวนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้ติดตามคดีให้เกิดความกระจ่างในทุกประเด็นที่สงสัย และต้องให้เวลาให้เขาทำงานก่อน ทั้งนี้ตนจะรายงานให้สื่อมวลชนทราบอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ในส่วนของแม่บ้านที่เคยทำงานอยู่ในบ้านของนางอังคณาและโดนไล่ออกนั้นก็กำลังตรวจสอบอยู่ด้วย รวมถึงบุคคลในบ้านทั้งหมดว่ามีความสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พบพิรุธจากคนในบ้านบ้างหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เท่าที่สอบถามก็ยังมีบางคน ตอนนี้กำลังพิสูจน์ทราบว่าสิ่งที่เป็นพิรุธเกิดจากการประหม่า หรือตกใจ หรือเกิดจากการทำความผิดมาก่อนหรือไม่ ต้องไปตรวจสอบดูทุกอย่าง ตนไม่สามารถพูดในรายละเอียดเชิงลึกได้เนื่องจากทางด้านผู้เสียหายไม่ประสงค์จะเป็นข่าว อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ตรวจพบทั้งหมดจะนำมาพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์โดยใช้เทคโนโลยีซึ่งจะช่วยในการหาตัวคนร้ายได้ง่าย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เมื่อวานได้พูดไว้ว่าต่อไปนี้ต้องทำแผนผังกล้องวงจรปิดหรือซีซีทีวีแมป หากมีเหตุเกิดที่บ้านไหนก็จะรู้เลยว่าบริเวณนั้นมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดกี่ตัว บริเวณใดบ้าง และสามารถไปตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่เดินหาไปเรื่อยๆ ซึ่งตนได้สั่งการให้ทุกโรงพักดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ภายในบ้านของผู้เสียหายไม่มีกล้องวงจรปิดใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ใช่ มีแค่บริเวณนอกบ้าน ในส่วนกรณีที่พบรถปิกอัพต้องสงสัยนั้นก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่ามีความเชื่อมโยงกันก็จะเป็นแนวทางในการหาตัวคนร้ายอีกวิธีหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม อยากจะขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ที่ครอบครองของกลางทั้งหมดให้นำมาคืนที่ บช.น.หรือตาม สน.ในท้องที่ พร้อมทั้งขอให้บุคคลที่ทราบเบาะแส หรือพบเห็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ สามารถเข้ามาแจ้งได้ที่ บช.น.เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด