xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เผยถก FTA ไทย-ปากีสถานคืบหน้า นัดหารือผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก่อนประชุมครั้งถัดไป พ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผยผลการเจรจา FTA ไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 2 คืบหน้า สามารถสรุปข้อตกลงด้านมาตรฐานสุขอนามัย และสุขอนามัยพืช และมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าได้แล้ว ส่วนการเจรจาการค้าสินค้าก็มีความคืบหน้า รวมถึงรูปแบบการลดภาษี เตรียมหารือผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อติดตามความคืบหน้าก่อนนัดประชุมครั้งถัดไป พ.ค.นี้

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการเจรจา FTA ไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 2 ณ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อสรุปตกลงข้อบทด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช และมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าได้แล้ว

ส่วนการเจรจาการค้าสินค้า กระบวนการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การเยียวยาทางการค้า และประเด็นด้านกฎหมายอื่นๆ ก็มีความคืบหน้าไปมาก และยังได้มีการหารือรูปแบบการลดภาษีด้วย

“ทั้งสองฝ่ายตกลงให้มีการหารือผ่าน video conference เพิ่มจากการประชุมปกติ ซึ่งจะเริ่มหารือผ่าน video conference ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2559 ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม 2559 เพื่อเร่งสรุปผลการเจรจา FTA ให้เสร็จภายในปีนี้”

น.ส.สุนันทากล่าวว่า การจัดทำ FTA ไทย-ปากีสถาน จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองประเทศทั้งด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากเป็นการขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งในรูปภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี เป็นการเพิ่มโอกาสการนำเข้าโดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบ โดยปากีสถานยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีค่าเป็นจำนวนมาก และไทยยังสามารถส่งออกสินค้าไปยังปากีสถานและประเทศใกล้เคียงในภูมิภาคได้ด้วย

ไทยและปากีสถานตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยปากีสถานมีที่ตั้งที่สามารถเป็นแหล่งการลงทุนและกระจายสินค้าสำหรับประเทศไทยไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และเอเชียกลาง ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ ในทางกลับกัน ประเทศไทยก็ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศในกลุ่มอาเซียน และสามารถเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าและแหล่งลงทุนแห่งใหม่ให้แก่ปากีสถานได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไทยและปากีสถานยังคงมีลู่ทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างมาก

ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีนักลงทุนไทย ได้แก่ บริษัท สยามซีเมนต์ บริษัท ไทยยูรีเทน เคมีคัลอินดัสเตรียล บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี. ปากีสถาน) ได้เข้าไปลงทุนในปากีสถานแล้ว

ในปี 2557 ปากีสถานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 46 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียใต้รองจากอินเดีย โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1,014.98 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 2.40 โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 734.94 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 874.96 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 6.97 และนำเข้ามูลค่า 140.02 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 40.86

สินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกของไทย ได้แก่ เส้นใยประดิษฐ์ ผ้าผืน รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เป็นต้น สินค้านำเข้าจากปากีสถาน ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องดนตรีของเล่นเครื่องกีฬาและเครื่องเล่นเกม สัตว์น้ำสดแช่เย็นแช่แข็งแปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น