การบินไทยร่อนหนังสือถึง ทอท. พิจารณาลดค่าบริการสนามบิน

การบินไทยทวงถาม ทอท.เร่งพิจารณาปรับลดค่าบริการในสนามบิน โดยเฉพาะ Landing&Parking Fee เพื่อจูงใจให้ลูกค้าใช้บริการอื่นๆเพิ่ม เผยเป็นการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจปรับระบบให้เป็นสากล เพื่อให้ ทอท.มีรายได้จากทุกกิจกรรมเพิ่มอีกกว่า 50% ด้าน “จรัมพร” ยันไม่ใช่ขอลดเพราะบริษัทวิกฤต แต่เสนอแนวทางมาตั้งแต่ปี 54 แล้วไม่คืบหน้า ด้านสหภาพฯ การบินไทยชี้ ทอท.ควรให้ส่วนลดเพราะเป็นลูกค้ารายใหญ่

แหล่งข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างประสานกับทาง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจและความปลอดภัยในการให้บริการต่างๆ ซึ่งการบินไทยเสนอให้ ทอท.พิจารณาในเชิงการทำประโยชน์ร่วมกัน โดยปัจจุบัน ทอท.เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนจากการบินไทย จากการประกอบกิจการและการใช้พื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงสายการบินต่างๆ ประมาณ 12 กิจกรรม เนื่องจากขณะนี้ ทอท.จะเน้นไปที่ค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Fee) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Fee) และค่าเช่าพื้นที่ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการสนามบินที่สายการบินต่างๆ ต้องจ่ายนั้นยังมีอีกหลายประเภท เช่น งานบริการลูกค้า บริการเช็กอิน บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น ครัวการบิน งานซ่อมบำรุงอากาศยาน การพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์และศูนย์ปฏิบัติ เป็นต้น จึงได้เสนอให้ ทอท.พิจารณาปรับลดค่าจอด ค่าเช่าพื้นที่ลง และจูงใจให้ลูกค้าไปใช้บริการกิจกรรมอื่นๆ เพิ่ม

ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่าการลดค่าบริการ Landing & Parking Fee ลง และปรับระบบธุรกิจเพื่อจูงใจให้สายการบินต่างๆ ไปเพิ่มบริการในส่วนอื่น เช่น ใช้ระบบเช็กอินร่วม แทนที่จะใช้เช็กอินของแต่ละสายการบินเอง ซึ่งจะลดความแออัดในการใช้พื้นที่อาคารผู้โดยสารลง รวมถึงพัฒนาฟรีโซนให้เต็มรูปแบบ จะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 50-80% ซึ่งเป็นการบริหารสนามบินโดยปรับธุรกิจให้เป็นระบบสากล เน้นความร่วมมือทางธุรกิจ มองภาพรวม ซึ่งมีตัวอย่างทั้งสนามบินสิงคโปร์ ฮ่องกง แฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี ที่ประสบความสำเร็จ โดยทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน

“ปัจจุบันการบินไทยต้องจ่ายค่าบริการ ตอบแทนต่างๆ ให้ ทอท.ปีละหลายพันล้านบาท ซึ่ง ทอท.ยังมองที่รายได้ค่าบริการ Landing&Parking Fee และค่าเช่าพื้นที่เป็นหลัก ขณะที่ยังมีอีก 10 ธุรกิจที่สามารถพัฒนาเพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์ได้ ในส่วนของการบินไทยนั้น ได้มีการหารือและเสนอกับ ทอท.รวมถึง บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) กรมการบินพลเรือน (บพ.) เพื่อพิจารณาธุรกิจร่วมกันมาระยะหนึ่งแล้ว โดยยืนยันว่าการจัดเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ มีมาตรฐานเดิม กำหนดสูตรเพื่อให้เหมาะสม เสนอปรับในภาพใหญ่ ไม่ได้ขอลดค่าบริการอย่างเดียว ทั้ง ทอท. และทุกสายการบินจะได้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจการบินมีความยั่งยืน” แหล่งข่าวกล่าว

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจนั้น การบินไทยได้มีการประชุมและเสนอแนวทางต่างๆ ร่วมกับ ทอท.มาตลอดตั้งแต่ปี 2554 ไม่ได้เพิ่งมาเสนอในช่วงที่บริษัทประสบปัญหา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้า จึงทำหนังสือไปยัง ทอท.เพื่อติดตามความคืบหน้า เป็นการตามเรื่องปกติ

ด้านนายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสหภาพฯ ได้เสนอให้มีการเจรจากับ ทอท.เพื่อร่วมมือทางธุรกิจ แต่ไม่มีความชัดเจน ซึ่งการบินไทยถือเป็นผู้ใช้บริการรายใหญ่ของ ทอท. มีเที่ยวบินถึง 80% เช่าพื้นที่กว่า 70% รายได้ส่วนใหญ่ของ ทอท.มาจากการบินไทย แต่การบินไทยกลับไม่ได้ส่วนลดอะไรเลย ทั้งที่หลักการค้า ผู้ซื้อของจำนวนมากๆ จะได้รับส่วนลดมากกว่าผู้ที่ซื้อของจำนวนน้อยๆ จึงอยากให้ ทอท.พิจารณาในประเด็นเหล่านี้