“อิออน” ทุ่ม 330 ล้านบาทผุดคอมมูนิตีมอลล์ “อิออน ศรีราชา” หวังเพิ่มรายได้เป็น 7 พันล้านบาทในปี 2558 พร้อมกางแผนธุรกิจขยายสาขา “แม็กซ์แวลู” และ “แม็กซ์แวลู ทันใจ” ครบ 500 สาขา ก่อนผุดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในปี 2563
นายมาซามิสึ อิกุตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เกต “แม็กซ์แวลู” (Maxvalu) และมินิซูเปอร์มาร์เกต “แม็กซ์แวลู ทันใจ” (Maxvalu Tanjai) จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยอย่างจริงจังมากขึ้นแม้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดหลายด้านแต่ก็ถือเป็นอุปสรรคที่ท้าทาย ทั้งในเรื่องกฎหมายผังเมืองของประเทศไทย ตลอดจนความแข็งแกร่งของตลาดธุรกิจค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อของประเทศไทยที่มีผู้นำตลาดท้องถิ่นอย่างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และเดอะมอลล์ รวมถึงผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่น เช่น โตคิว รวมถึงลอว์สัน 108 และแฟมิลี่มาร์ท เป็นต้น
ล่าสุด บริษัทฯ ลงทุน 330 ล้านบาทในการดำเนินธุรกิจคอมมูนิตีมอลล์ภายใต้ชื่อ “อิอน ศรีราชา” ด้วยแนวคิด NSC (Neighborhood Shopping Center) ในอำเภอศรีราชา จังหวัลชลบุรี บนพื้นที่ 1 หมื่นตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต 2.5 พันตารางเมตร ร้านอาหารญี่ปุ่น 4.5 พันตารางเมตร ส่วนที่เหลือเป็นลานจอดรถ โดยเน้นการจำหน่ายสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น 20% ทั้งยังมีความแตกต่างในเรื่องของร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ 100% จากผู้ประกอบการโดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นและแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้การดำเนินงานของผู้ประกอบการชาวไทย
เบื้องต้น บริษัทฯ กำหนดงบประมาณการตลาด 10 ล้านบาทในการสร้างความรับรู้แก่ผู้บริโภค โดยในช่วงที่เหลือของปี 2558 ยังเพิ่มงบประมาณอีกเดือนละ 5 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมการตลาดและงานอีเวนต์ต่างๆ ร่วมกับร้านค้าภายในโครงการ โดยคาดว่าวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ต.ค.ศกนี้จะมีผู้มาร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน จากนั้นในช่วงปรกติวันจันทร์-ศุกร์จะมีลูกค้าหมุนเวียนเข้าโครงการวันละประมาณ 3.5 พันคนและเพิ่มเป็น 5-6 พันคนในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ คิดเป็นชาวไทย 80% ต่างชาติ 20%
นายมาซามิสึ อิกุตะ กล่าวอีกว่า การเปิดตัวโครงการ “อิอน ศรีราชา” ในประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นรูปแบบการลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกของโลกเพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มปีละ 1 แห่งในพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูงก่อนที่จะลงทุนดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เต็มรูปแบบ พร้อมดำเนินธุรกิจตามแผนขยายธุรกิจ “แม็กซ์แวลู” และ “แม็กซ์แวลู ทันใจ” ครบ 500 สาขาภายในปี 2563
ปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ “แม็กซ์แวลู” 27 สาขา และ “แม็กซ์แวลู ทันใจ” 50 สาขา โดยในปี 2559 มีแผนขยายธุรกิจ “แม็กซ์แวลู” เพิ่มอีก 7 สาขา ใช้งบฯ ลงทุนสาขาละ 40-50 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 1.5 พันตารางเมตร ทั้งยังจะขยาย “แม็กซ์แวลู ทันใจ” เพิ่มอีก 17 สาขา ภายใต้งบลงทุน 5 ล้านบาทจากเดิมที่เคยใช้ 7-8 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 200 ตารางเมตร
“ในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย 5.8 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้รวม โดยมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ภายในปี 2563 ขณะที่ในปี 2558 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15-17% หรืออย่างน้อย 7 พันล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น แม็กซ์แวลู 70% แม็กซ์แวลู ทันใจ 20% และอิอน ศรีราชา 10%”
นายมาซามิสึ อิกุตะ กล่าวในตอนท้ายว่า บริษัทฯ มีแผนดำเนินธุรกิจ “แม็กซ์แวลู” และ “แม็กซ์แวลู ทันใจ” ให้มีความแตกต่างจากร้านสะดวกซื้อทั่วไปด้วยขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่าและนำเสนอสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นประมาณ 20% ขณะเดียวกันยังเน้นสินค้าหลักคือกลุ่มอาหารสด และ RTE (Ready To Eat) โดยขณะนี้กำลังศึกษาและเร่งสรุปแผนการจัดส่งสินค้าเดลิเวอรีในรัศมีพื้นที่ 300 เมตรของแต่ละสาขา