xs
xsm
sm
md
lg

แอดไวซ์คาดปีนี้โต 5-7% ส่วนปีหน้าเน้นกลยุทธ์เพิ่มยอดขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การจัดการและการตลาด บริษัท แอดไวซ์โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด
แอดไวซ์ คาดปีนี้โต 5-7% ส่วนปีหน้าเตรียมขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นในทุกด้าน พร้อมขยายสาขาในไทยให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 450 สาขา ส่วนในลาว มีแผนที่จะเพิ่มให้มากกว่าที่อยู่แล้ว 22 สาขา เล็งเพิ่มงบการตลาด 20% พร้อมขยายช่องทางสื่อสารการตลาด และทำกิจกรรมร่วมกับพาร์ตเนอร์ เพื่อเอาใจลูกค้าต่างจังหวัดที่เป็นลูกค้าหลัก เตรียมเพิ่มแฟล็กชิปสโตร์ที่ชูภาพความเป็นไฮเอนด์อีก 5 แห่ง ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปีหน้า

นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การจัดการและการตลาด บริษัท แอดไวซ์โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5-7% เมื่อเทียบกับปี 2014 ที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท ส่วนแผนการตลาดในปีหน้านั้นแอดไวซ์จะเน้นการเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของยอดขายปลีกทั้งหน้าร้าน และแฟรนไชส์ รวมไปถึงการเข้าร่วมประมูลโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐให้มากขึ้น

นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มยอดรายได้จากการให้บริการในร้าน เช่น การรับเคลมสินค้าในแบรนด์ต่างๆ ได้ทุกพื้นที่ และจะขยายช่องทางเป็น 450 สาขา หรือเพิ่มอีก 15% จากปีนี้ เช่นเดียวกับทางด้านการตลาดที่จะเพิ่มงบการตลาดมากขึ้นประมาณ 20% และจะปรับการสื่อสารทางการตลาดในช่องทางปกติเป็น 50-60% ช่องทางออนไลน์ 30-35% และนิวมาร์เกตติ้งคอนเซ็ปต์ 10-15% เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น

“ปัจจุบันสาขาแอดไวซ์ประมาณ 90% และยอดขาย 85% มาจากต่างจังหวัด ดังนั้น ช่องทางทีวีเรายังคงมีความสำคัญที่จะสื่อเข้าถึงตัวลูกค้าเป้าหมาย เช่นเดียวกับในส่วนของพาร์ตเนอร์ที่แอดไวซ์จะเน้นสร้างความแข็งแรงร่วมกันกับพาร์ตเนอร์มากขึ้น และจัดโปรแกรมทางการตลาดร่วมกัน และที่สำคัญกำลังเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายปีหน้า โดยขณะนี้แอดไวซ์มี 382 สาขาในไทย ส่วนในลาวมีประมาณ 22 สาขา”

นายจักรกฤช กล่าวว่า ที่ผ่านมา 5 ปี ยอดขายของแอดไวซ์โต 12-15% การรักษาการเติบโตดังกล่าวเนื่องจากมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดที่ครอบคลุมถึง 73 จังหวัด นอกจากนี้ การเติบโตยังเกิดจากการขยายสินค้าในกลุ่มดีไอวายในตลาดเกมมิง ไฮเอนด์ ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้ที่เดิมตั้งเป้าจะเติบโต 25% แต่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้น เนื่องจากเดิมได้วางเป้าการเติบโตในกลุ่มมือถือไว้สูง แต่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะโอเปอเรเตอร์ทุกรายลงมาเล่นตลาดนี้กันเองมากขึ้น

ล่าสุด ได้ทำการเปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ชูจุดเด่นที่มีการแบ่งกลุ่มสินค้าอย่างชัดเจน และมีการตกแต่งที่ดูไฮเอนด์มากขึ้น และตั้งเป้าที่จะขยายแฟล็กชิปสโตร์เป็น 5 สาขา ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า โดยใช้เงินในการสร้างสาขาเฉลี่ย 4-5 ล้านบาท ทั้งนี้แอดไวซ์ยังได้ทำการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่เพื่อรองรับต่อความเป็นไฮเอนด์เพื่อสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

นายจักรกฤช กล่าวว่า ในปีหน้าจะยังเน้นผลิตภัณฑ์กลุ่มดีไอวาย และเน้นในกลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น รวมไปถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มซีซีทีวีให้มากขึ้น ปัจจุบัน มีสัดส่วนการขายดีไอวาย 30% รองมาเป็นโน้ตบุ๊ก 19% พรินติงแอนด์อิมเมจ 18% แอ็กเซสเซอรี่ 9% เดสก์ท็อป 6% เน็ตเวิร์ก 4% ซีซีทีวี 3% แท็บเล็ต 2% ที่เหลือเป็นสินค้าอื่นๆ

สำหรับกิจกรรมการตลาดที่ผ่านมา มีทั้งการทำโบรชัวร์รายเดือน ทำโปสเตอร์ ใบปลิวในการออกงานแสดงสินค้า ซึ่งในครึ่งปีหลังที่ผ่านมา ได้รุกสื่อออนไลน์มากขึ้น โดยปัจจุบันมีแฟนเพจในเฟซบุ๊ก 5 แสนราย นอกจากนี้ ยังเริ่มรุกในสื่ออย่างอินสตราแกรม ยูทิวบ์ ไลน์ และทวิตเตอร์ โดยจะสื่อข้อมูลสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางนี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่ทำซีอาร์เอ็มดูแลโดยเฉพาะ

“ปัจจุบันมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ประมาณ 300,000 -500,000 รายต่อเดือน นอกจากนี้ ยังมีแอดไวซ์ออนไลน์ที่เป็นเสมือนแค็ตตาล็อกออนไลน์ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป สำหรับในต่างจังหวัดได้ทำการโรดโชว์ทั้งในระดับภาค อำเภอ ในบางพื้นที่จะให้แฟรนไชส์เป็นผู้ดำเนินการ รวมไปถึงการจัดงานในตลาดนัดที่จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าไอทีในราคาเหมาะสม”




กำลังโหลดความคิดเห็น