ตลาดเครื่องประดับเพชรไทย 8 หมื่นล้านบาทยังโตต่อเนื่อง “สยามเพชร” ฟุ้งยอดขายโต 40% ติดต่อกัน 5 ปี เตรียมขยายเพิ่มเป็น 5 สาขารองรับความต้องการลูกค้าสี่มุมเมือง ชูแนวคิด “ขายปลีกในราคาส่ง” ตั้งแต่ 1 ชิ้นขึ้นไป คาดปี 59 กระตุ้นยอดขายโตเพิ่มเท่าตัวเป็น 100%
นางสาววิรารัตน์ วงศ์สกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเพชร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและอัญมณีภายใต้แบรนด์ “สยามเพชร” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เพิ่งเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2545 โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ จ.สมุทรปราการ 2554 จากนั้นเริ่มทดลองทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ www.siampetch.com เมื่อปี 2553 ก่อนที่จะเปิดสาขาศูนย์การค้าเมกาบางนา หลังจากที่ก่อนหน้านั้นครอบครัวดำเนินธุรกิจจำหน่ายเพชรทองในย่านเยาวราชมาแล้วกว่า 40 ปี ล่าสุดเพิ่งเปิดสาขาที่สาม คือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ปี 2559 ตั้งเป้าจะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 5 สาขา โดยจะเปิดที่เซ็นทรัล เวสต์เกต 1 สาขา ส่วนอีก 1 สาขากำลังพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้งในย่านกลางเมือง โดยแต่ละสาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
ตลาดเพชรในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าและกลุ่มนักลงทุนต่างหันมาสนใจการลงทุนระยะยาวกับเพชรมากขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนด้านเครื่องประดับเพชรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่บริษัทฯ เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการมีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 40% บริษัทฯ จึงยังไม่เน้นทำตลาดต่างประเทศมากนักเนื่องจากมั่นใจว่าตลาดเพชรในประเทศยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จึงต้องการสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งก่อน โดยปัจจุบันฐานลูกค้าทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้านมีสัดส่วนเท่ากันคือ 50:50
แนวคิดหลักในการดำเนินงานของบริษัทฯ คือ “ขายปลีกในราคาส่ง” เนื่องจากเห็นว่าตามปกติลูกค้าผู้ซื้อเพชรส่วนใหญ่มักจะเป็นแม่ค้าและห้างร้านต่างๆ ที่มักจะซื้อหลายๆ ชิ้นในราคาที่ตลาดกลางกำหนดเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ บริษัทฯ จึงเห็นความสำคัญในการขยายฐานลูกค้าเพื่อให้มีลูกค้าหลากหลายและเน้นการเข้าถึงลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากขึ้น จึงเลือกที่จะใช้วิธีการขายปลีกในราคาส่งตั้งแต่ 1 ชิ้นขึ้นไป ซึ่งถือเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้าโดยตรง โดยเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะส่งผลให้มียอดขายเติบโตขึ้น 50% ในปี 2558 และเพิ่มเป็น 100% ในปี 2559
สำหรับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันซึ่งยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวไม่ถือว่ามีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้สูงที่ต้องการสินค้าคุณภาพดี คิดเป็นคนไทย 70% และต่างชาติ 30% แบ่งเป็นกลุ่มนักลงทุน กลุ่มนักสะสม กลุ่มศิลปินดารา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มคู่รักที่วางแผนกำลังจะแต่งงานซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวสูงมาก ดังจะเห็นได้จากจำนวนคู่รักที่เดินทางมาติดต่อซื้อเครื่องประดับเพชรและอัญมณีเป็นประจำทุกวัน โดยนอกจากบริษัทฯ จะจำหน่ายเพชรเป็นหลักแล้ว ยังมีบริการฝากขายเพชรเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดด้วย
นางสาววิรารัตน์กล่าวในตอนท้ายว่า สินค้าของบริษัทฯ มีครอบคลุมทุกชนิดตั้งแต่สร้อย แหวน กำไล ต่างหู นาฬิกา และอื่นๆ โดยเพชรที่จำหน่ายบางส่วนเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เบลเยียม และฮ่องกง โดยบริษัทฯ เน้นทำการตลาดแบบปากต่อปากให้ลูกค้าเป็นผู้บอกต่อถึงคุณภาพสินค้าและบริการ โดยสินค้าทุกชิ้นที่ซื้อจากสยามเพชรจะมีการรับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งาน พร้อมมอบของแถมให้ทุกรายการ นอกจากนั้นยังมีโปรโมชันลดราคาสินค้าทุกชิ้นทั้งร้าน 50% พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระกับบัตรเครดิตกสิกรไทย 0% นาน 6 เดือน
นางสาววิรารัตน์ วงศ์สกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเพชร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและอัญมณีภายใต้แบรนด์ “สยามเพชร” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เพิ่งเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2545 โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ จ.สมุทรปราการ 2554 จากนั้นเริ่มทดลองทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ www.siampetch.com เมื่อปี 2553 ก่อนที่จะเปิดสาขาศูนย์การค้าเมกาบางนา หลังจากที่ก่อนหน้านั้นครอบครัวดำเนินธุรกิจจำหน่ายเพชรทองในย่านเยาวราชมาแล้วกว่า 40 ปี ล่าสุดเพิ่งเปิดสาขาที่สาม คือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ปี 2559 ตั้งเป้าจะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 5 สาขา โดยจะเปิดที่เซ็นทรัล เวสต์เกต 1 สาขา ส่วนอีก 1 สาขากำลังพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้งในย่านกลางเมือง โดยแต่ละสาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
ตลาดเพชรในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าและกลุ่มนักลงทุนต่างหันมาสนใจการลงทุนระยะยาวกับเพชรมากขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนด้านเครื่องประดับเพชรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่บริษัทฯ เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการมีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 40% บริษัทฯ จึงยังไม่เน้นทำตลาดต่างประเทศมากนักเนื่องจากมั่นใจว่าตลาดเพชรในประเทศยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จึงต้องการสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งก่อน โดยปัจจุบันฐานลูกค้าทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้านมีสัดส่วนเท่ากันคือ 50:50
แนวคิดหลักในการดำเนินงานของบริษัทฯ คือ “ขายปลีกในราคาส่ง” เนื่องจากเห็นว่าตามปกติลูกค้าผู้ซื้อเพชรส่วนใหญ่มักจะเป็นแม่ค้าและห้างร้านต่างๆ ที่มักจะซื้อหลายๆ ชิ้นในราคาที่ตลาดกลางกำหนดเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ บริษัทฯ จึงเห็นความสำคัญในการขยายฐานลูกค้าเพื่อให้มีลูกค้าหลากหลายและเน้นการเข้าถึงลูกค้าหลากหลายกลุ่มมากขึ้น จึงเลือกที่จะใช้วิธีการขายปลีกในราคาส่งตั้งแต่ 1 ชิ้นขึ้นไป ซึ่งถือเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้าโดยตรง โดยเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะส่งผลให้มียอดขายเติบโตขึ้น 50% ในปี 2558 และเพิ่มเป็น 100% ในปี 2559
สำหรับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันซึ่งยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวไม่ถือว่ามีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้สูงที่ต้องการสินค้าคุณภาพดี คิดเป็นคนไทย 70% และต่างชาติ 30% แบ่งเป็นกลุ่มนักลงทุน กลุ่มนักสะสม กลุ่มศิลปินดารา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มคู่รักที่วางแผนกำลังจะแต่งงานซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวสูงมาก ดังจะเห็นได้จากจำนวนคู่รักที่เดินทางมาติดต่อซื้อเครื่องประดับเพชรและอัญมณีเป็นประจำทุกวัน โดยนอกจากบริษัทฯ จะจำหน่ายเพชรเป็นหลักแล้ว ยังมีบริการฝากขายเพชรเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดด้วย
นางสาววิรารัตน์กล่าวในตอนท้ายว่า สินค้าของบริษัทฯ มีครอบคลุมทุกชนิดตั้งแต่สร้อย แหวน กำไล ต่างหู นาฬิกา และอื่นๆ โดยเพชรที่จำหน่ายบางส่วนเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เบลเยียม และฮ่องกง โดยบริษัทฯ เน้นทำการตลาดแบบปากต่อปากให้ลูกค้าเป็นผู้บอกต่อถึงคุณภาพสินค้าและบริการ โดยสินค้าทุกชิ้นที่ซื้อจากสยามเพชรจะมีการรับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งาน พร้อมมอบของแถมให้ทุกรายการ นอกจากนั้นยังมีโปรโมชันลดราคาสินค้าทุกชิ้นทั้งร้าน 50% พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถผ่อนชำระกับบัตรเครดิตกสิกรไทย 0% นาน 6 เดือน
