เศรษฐกิจเป็นพิษ “โรบินสัน” ติดเบรกขยายสาขา ผ่อนคันเร่งเหลือปีละ 2 สาขา จากเดิมเฉลี่ย 4-5 สาขา หันมาเน้นปรับปรุงสาขาเก่า ล่าสุดทุ่ม 200 ล้านบาท รีโนเวตใหญ่สาขารังสิต ขยายกลุ่มวัยรุ่น พร้อมทุ่มงบตลาด 180 ล้านบาทจัดหนักปลายปี
นายอลัน จอร์จ ทอมสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับแผนการลงทุนระยะสั้นใหม่ในช่วง 2 ปีจากนี้ คือ ปี 2559-2560 โดยเริ่มในปีหน้าบริษัทได้ปรับแผนการลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ โดยจะชะลอการขยายสาขาใหม่ คาดว่าอาจจะเปิดสาขาใหม่ประมาณ 2 สาขาเท่านั้น จากเดิมที่จะมีการเปิดสาขาใหม่เฉลี่ยปีละ 4-5 สาขา และจะกลับมาลงทุนในเชิงรุกปีละ 4 สาขาอีกครั้งในปี 2561 โดยปีหน้าสาขาใหม่ที่จะมีการเปิดตัว คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดลพบุรี รวม 2 สาขา
ขณะเดียวกันก็จะหันมามุ่งเน้นการพัฒนาสาขาเดิมและการปรับปรุงสาขาเก่าที่เปิดบริการมานานแล้วให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมประมาณ 4 สาขาในปีหน้า คือ สาขาเชียงใหม่ ที่เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว และไม่ได้ปรับปรุงใหญ่เลย, สาขาพระรามเก้า, สาขาสระบุรี และสาขาตรัง ทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่เป็นสาขาที่มียอดขายสูง คาดว่าหลังการปรับปรุงเสร็จจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ งบประมาณการลงทุนโดยรวมทั้งการเปิดสาขาใหม่และการปรับปรุงสาขาเดิมในปีหน้า 3,000 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสาขาโรบินสันรังสิต ด้วยแนวคิดไลฟ์สไตล์ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ที่มีภาพลักษณ์ทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งการปรับสินค้าและรูปแบบการจัดร้านใหม่เพื่อให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ สินค้าที่จะเน้นคือกลุ่มความงามและสุขภาพ มีการเพิ่มแบรนด์สินค้าวัยรุ่นเข้ามามากขึ้น เปิดพื้นที่ให้บริการด้านความงาม เช่น สปา หรือทำเล็บ รวมทั้งฟิตเนส เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นมากขึ้น ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการพบว่ากลุ่มวัยรุ่นเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวและคนสูงอายุเป็นหลัก แต่มีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเพียง 30% เท่านั้น และคาดหวังว่าจะเพิ่มลูกค้าใหม่เข้าห้างอีก 15% จากปริมาณลูกค้าที่เข้าห้าง 20,000 คนต่อวัน และจากนี้บริษัทเตรียมใช้สาขารังสิตเป็นต้นแบบในการปรับปรุงสาขาอื่นต่อไป
“เศรษฐกิจที่เป็นอยู่แบบนี้ทำธุรกิจยาก กำลังซื้อของลูกค้าในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว โดยยอดขายของสาขาเดิมยังทรงตัวเท่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เราจึงต้องมองหามาตรการที่จะดูแลตัวเองจึงหันมาเน้นการปรับปรุงสาขาเดิมให้ดีขึ้นซึ่งส่วนใหญ่แลว้เมื่อปรับปรุงเสร็จจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 20%” นายอลันกล่าว
สำหรับช่วงปลายปีนี้จะใช้งบประมาณอีก 180 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมใหญ่อีก 3 งานในช่วงปลายปีเพื่อกระตุ้นยอดขาย คาดว่าจะทำให้ไตรมาสสุดท้ายบริษัทมีรายได้ประมาณ 8,200 ล้านบาท และทำให้รายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 28,000 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย