xs
xsm
sm
md
lg

กกร.ตั้งคณะทำงานศึกษาจุดยืน “TPP” คาดสิ้นปีแล้วเสร็จชงรัฐบาลตัดสินใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กกร.” วิตกกรณีหลายประเทศเริ่มทำข้อตกลง TPP โดยเฉพาะเวียดนาม หวั่นจะกระทบการค้าไทยในอนาคตได้แม้ระยะสั้นไร้ปัญหา ตั้งคณะทำงานศึกษาลงลึกภายใน 2 เดือนหรือภายในสิ้นปีแล้วเสร็จเพื่อเตรียมเสนอให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อไป พร้อมหั่นคาดการณ์ GDP ปีนี้โตเหลือ 2.5-3% ส่งออกติดลบ 5%





นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.มีความเป็นห่วงในระยะกลางและยาวเกี่ยวกับกรณีที่หลายประเทศได้มีการเซ็นลงนามทำข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเวียดนาม ขณะที่ไทยเองยังไม่มีจุดยืนในเรื่องดังกล่าวที่ชัดเจนนัก ซึ่ง กกร.เห็นว่าไทยจำเป็นจะต้องพิจารณาในประเด็นดังกล่าวแต่จำเป็นจะต้องศึกษาในรายละเอียดจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องนี้ โดยคาดว่าจะสรุปเพื่อนำเสนอให้รัฐบาลกำหนดท่าทีต่อไปภายในสิ้นปีนี้

“ระยะสั้นคงไม่มีปัญหาอะไรแต่เราก็กังวลว่าระยะยาวอาจมีปัญหาได้ จึงตั้งคณะทำงานเพื่อดูรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งคณะทำงานนี้จะมีตัวแทนจากสภาหอฯ สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ฝ่ายละ 5 คน การศึกษาจะลงรายละเอียดต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนหรือสิ้นปี ซึ่งจะรวมถึงกรณีการเจรจาทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ FTA ไทย-อียู และกับประเทศอื่นๆ เช่น ปากีสถาน อิหร่าน ตุรกี ฯลฯ” นายอิสระกล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวม ซึ่งพบว่ายังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐโลกโดยเฉพาะการส่งออก จึงได้ปรับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ โดยคาดว่าจีดีพีปี 2558 จะเติบโตที่ระดับ 2.5-3% จากเดิมที่คาดไว้จะเติบโตที่ 3-3.5% ส่วนการส่งออกจะติดลบ 5% (รูปเงินเหรียญสหรัฐ) จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโตไม่เกิน 1% อย่างไรก็ตาม การที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าทำให้การติดลบในแง่ของเงินบาทไม่มากนัก

นายอิสระกล่าวว่า กกร.ยังพิจารณาเสนอปรับปรุงแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยการแต่งตั้งคณะทำงานชุดเล็กระหว่างภาครัฐกับเอกชนขึ้นมาในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ และลดอุปสรรคทางการค้าให้น้อยลง เช่น ใบอนุญาตต่างๆ ฯลฯ เนื่องจากแม้ว่ารัฐจะจัดตั้งศูนย์บริการครบวงจร (One Stop Service) แต่การปฏิบัติยังไม่เห็นผลนัก รวมถึงกรณีระดับจังหวัดที่รัฐบาลผลักดันกระจายเม็ดเงินสู่ระดับฐานรากด้วยการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชน (กรอ.) จังหวัด จึงได้เสนอให้มีการจัดตั้งทีมเศรษฐกิจจังหวัดซึ่งเป็นโครงสร้างกระชับและเน้นด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง โดยมีหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง 5-6 หน่วยงาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนและพัฒนาจังหวัดให้เข้มแข็งทั้งระยะสั้น กลาง ยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น