“กระทรวงพลังงาน” จ่อเสนอร่างแก้ไข กม.ปิโตรเลียมเข้าสู่การพิจารณา ครม.ในเดือน ต.ค.นี้ คาดว่าจะเปิดสัมปทานรอบ 21 ได้ในต้นปีหน้า เมินการตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติขึ้นมาดูแล เหตุปริมาณสำรองปิโตรเลียมไทยน้อย แต่ใช้เรกูเลเตอร์เดิมเข้ามาดูแล ส่วนกรณีทบทวนสัญญาไอพีพีของกัลฟ์ 5 พันเมกะวัตต์คาดว่าสิ้นปีนี้ได้ข้อสรุป
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ว่า ได้เชิญกรรมาธิการ (กมธ.) พลังงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มาหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภายนอกแล้วนำมาประมวลพิจารณา เพื่อสรุปร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม คาดว่ากระทรวงฯ จะเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในภายในเดือนตุลาคมนี้ และนำเข้า สนช.ผ่านทั้ง 3 วาระ จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน คาดว่าต้นปีหน้าจึงจะเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ได้
ส่วนที่มีการเสนอให้จัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติขึ้นมาดูแลนั้น เห็นว่าไม่มีความจำเป็น เนื่องจากปริมาณสำรองปิโตรเลียมของไทยไม่ได้มากเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย แต่อาจจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล หรือเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เพราะมีกำกับดูแลด้านพลังงานอยู่ หรือจัดตั้งเรกูเลเตอร์ใหม่ขึ้นมาดูแล
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบทบทวนสัญญาโครงการรับซื้อไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) 5 พันเมกะวัตต์ที่มีผู้ชนะเพียงรายเดียว คือ กลุ่มกัลฟ์ เจพี ว่าได้ตั้งคณะกรรมการชุดเล็กขึ้นมาเพื่อเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมร่วมกัน โดยทางกัลฟ์เองก็มีการแจ้งว่ามีการลงทุนในโครงการดังกล่าวไปบ้างแล้ว หากมีการยกเลิกทั้งหมดก็จะเสียหาย ซึ่งการเจรจามีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้ หลังจากเรื่องดังกล่าวยืดเยื้อมานานตั้งแต่ปี 2556
พล.อ.อนันตพรกล่าวต่อไปว่า การคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่นั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ โดยได้เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาหาแนวทางการให้ผลตอบแทนแก่ประชาชนในพื้นที่มากกว่านี้แม้ว่าจะมีกองทุนพัฒนาไฟฟ้าอยู่แล้วโดยต้องไม่เป็นภาระของชาติ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในปี 2559 ของกระทรวงพลังงาน วงเงินรวม 6.9 แสนล้านบาท เช่น สายส่งไฟฟ้า 500 เควีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, โครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5, คลังเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจีเทอร์มินัล) และคลังเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ของ ปตท.
