เอกชนขานรับโครงการ “โซลาร์ฟาร์ม” สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร เฟสแรก 600 เมกะวัตต์ “ราชบุรีฯ-SPCG-บางจาก” จ่อยื่นชิงดำลุยโครงการดังกล่าว ด้านเอ็กโกกรุ๊ปไม่สนใจ แต่มีพันธมิตรเสนอให้ร่วมแจมด้วยหากได้รับเลือก
ตามที่กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ จะเปิดให้เอกชนผู้สนใจยื่นข้อเสนอโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ย.นี้ เฟสแรก 600 เมกะวัตต์ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) จะรับซื้อ 400 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) รับซื้อ 200 เมกะวัตต์ การรับซื้อจะต้องพิจารณาจากความพร้อมของระบบสายส่งด้วย พบว่ามีภาคเอกชนหลายรายให้ความสนใจที่จะเข้ายื่นเสนอเข้าโครงการดังกล่าว
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ สนใจยื่นเสนอโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรไม่มากนักเนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการจับฉลากเพื่อคัดเลือกหาผู้ที่จะได้ลงทุน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่ 20-50 เมกะวัตต์เท่านั้น เนื่องจากบริษัทได้มีร่วมทุนกับพันธมิตรในการพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นรวม 130 เมกะวัตต์ ซึ่งมีผลตอบแทนที่ดีและใช้เงินทุนค่อนข้างมาก
แหล่งข่าวจากบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ก็ให้ความสนใจที่ยื่นพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ฯ โดยบริษัทจะมุ่งไปพัฒนาโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในส่วนราชการเป็นส่วนใหญ่ซึ่งได้มีการติดต่อหน่วยงานราชการไว้บ้างแล้ว คาดว่าจะพัฒนาโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในส่วนราชการประมาณ 10 แห่ง ส่วนสหกรณ์การเกษตรก็มีการเจรจาอยู่เช่นกัน ส่วนรายละเอียดต่างๆ คงต้องรอดูนโยบายรัฐและระบบสายส่งในพื้นที่ว่าจะรองรับได้หรือไม่ การตัดสินใจเข้าไปร่วมยื่นเสนอโครงการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มดังกล่าวนี้ถือเป็นการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าภายในประเทศ จากที่ผ่านมาบริษัทฯได้เน้นการลงทุนในต่างประเทศค่อนข้างมาก เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศไม่เติบโตมากนักเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว และปริมาณสำรองไฟฟ้ามีสูง
ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า บริษัทฯญ ได้ร่วมมือกับกลุ่มสหกรณ์การเกษตรเพื่อยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มสำหรับส่วนราชการและสหกรณ์ฯ โดยตั้งเป้าหมายไว้ 40-50 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 200 เมกะวัตต์ในปีนี้ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่จ่ายไฟอยู่แล้ว 118 เมกะวัตต์ การรุกธุรกิจไฟฟ้าดังกล่าวนี้บางจากมีเป้าหมายที่จะเน้นการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าทดแทนหลากหลายรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งบริษัทย่อย คือบริษัท บีซีพีจี จำกัด ขึ้นมารับผิดชอบธุรกิจไฟฟ้าดังกล่าวก่อนที่จะนำบริษัทนี้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (เอ็กโก กรุ๊ป) กล่าวว่า บริษัทฯ คงไม่ยื่นเสนอเข้าร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ เนื่องจากขนาดแต่ละโครงการค่อนข้างเล็กเพียง 5 เมกะวัตต์เท่านั้น แต่มีพันธมิตรทางธุรกิจจะยื่นเข้าร่วมโครงการดังกล่าว และหากได้รับเลือกก็จะชวนเอ็กโกกรุ๊ปเข้าร่วมด้วย เนื่องจากต้องการให้เอ็กโกเข้าไปช่วยดำเนินการโรงไฟฟ้าดังกล่าว โดยเบื้องต้นพันธมิตรคาดว่าจะได้พัฒนาโครงการนี้ประมาณ 10-20 เมกะวัตต์