“เรกูเลเตอร์” เผยยอดโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรเฟสแรกมีผู้ยื่น 618 ราย จำนวน 2,905.50 เมกะวัตต์ สูงกว่าเป้าหมายรับซื้อเกือบ 5 เท่า ลุ้นจับฉลาก 15 ธ.ค.นี้
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า การยื่นคำขอรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร หรือโซลาร์ฟาร์ม ตั้งแต่วันที่ 1-10 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นคำขอขายไฟฟ้ารวมจำนวนทั้งสิ้น 618 ราย และคิดเป็นปริมาณการเสนอขายไฟฟ้ารวมทุกเขตพื้นที่ (ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้) เป็นจำนวน 2,905.50 เมกะวัตต์ สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในเฟสแรกที่จะรับซื้อจำนวน 600 เมกะวัตต์ถึง 5 เท่า
สำหรับการยื่นคำขอขายไฟแยกเป็นหน่วยราชการ 384 ราย เสนอขายไฟ 1,778.03 เมกะวัตต์ สหกรณ์และสหกรณการเกษตร 234 ราย เสนอขายไฟ 1,127.47 เมกะวัตต์ โดยมีการยื่นเสนอขายในเขตพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 40 ราย 180.30 เมกะวัตต์จากเป้าหมายรับซื้อ 200 เมกะวัตต์ พื้นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 574 ราย 2,709.20 เมกะวัตต์ จากปริมาณรับซื้อ 389 เมกะวัตต์ กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ 4 ราย 16 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายรับซื้อ 11 เมกะวัตต์
“การยื่นขอขายไฟในเขต กฟภ.ครั้งนี้มีปริมาณการเสนอขายสูงจากเป้าหมายรับซื้อ 389 เมกะวัตต์ เกือบ 7 เท่า ซึ่ง กกพ.ยังเปิดรับเอกสารประกอบแบบคำขอเข้าร่วมโครงการ (เพิ่มเติม) กรณีที่มายื่นแล้วไม่ครบ จนถึงวันที่ 20 พ.ย.นี้เพื่อประกาศรายชื่อโครงการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติได้ในวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ที่ทางสำนักงาน หรือ www.erc.or.th และเข้าสู่กระบวนการจับฉลากในวันที่ 15 ธันวาคม 2558 และจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2558” นายวีระพลกล่าว
ทั้งนี้ จะกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนกันยายน 2559 ก่อนที่จะประกาศรับซื้อไฟฟ้าในเฟสที่สองและพื้นที่ที่เหลือภายในปี 2559 และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในปี 2561 (ม.ค.-มิ.ย.) ดังนั้น ระยะนี้หากพบว่ามีการแอบอ้างขายสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) ขอให้อย่าหลงเชื่อเพราะระเบียบห้ามมิให้มีการโอนสิทธิและหน้าที่ในคำขอขายไฟฟ้าหรือในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้แก่ผู้อื่น รวมทั้งห้ามมิให้ผู้สนับสนุนโครงการที่เป็นนิติบุคคล เปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ถือหุ้นจนเป็นเหตุให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง และเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นที่ถือเหลือน้อยกว่า 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจนกว่าโครงการจะได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เป็นระยะเวลา 3 ปี