“เรกูเลเตอร์” เคาะโครงสร้างค่าไฟใหม่แล้ว เตรียมประกาศใช้ในบิลค่าไฟ พ.ย.-ธ.ค. 58 นี้ ส่งผลให้ประชาชนจ่ายค่าไฟลดลง 1.05 สตางค์ต่อหน่วยทันที โดยหลักๆ มาจากการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนจริงของ 3 การไฟฟ้า ระหว่างปี 54-56 กว่า 2.59 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าบริการรายเดือนกดไม่ลงยังคงที่ 38.22 บาทต่อบิล
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกพ.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับอัตราโครงสร้างค่าไฟฟ้าปี 2558-2560 โดยจะมีผลในบิลค่าไฟที่เรียกเก็บกับประชาชนในเดือน พ.ย.-ธ.ค. 58 นี้ซึ่งจะทำให้ประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้ารวมทั้งค่าไฟฟ้าฐานและค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ลดลง 1.05 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งผลของการลดลงหลักๆ มาจากการปรับแผนการลงทุนของ 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)
“เดิมจะต้องรีเซต Ft เป็นศูนย์ตั้งแต่ค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค. แต่ปรากฏว่าการศึกษายังไม่เสร็จ ซึ่งตอนนั้นได้ลด Ft ไปแล้ว 3.23 สตางค์ต่อหน่วย ดังนั้นค่าไฟฐานใหม่ก็จะอยู่ที่ 3.73 บาทต่อหน่วย และ Ft ติดลบที่ 3.23 สตางค์ต่อหน่วย จากนั้นเดือน ม.ค.-เม.ย. 59 ก็จะมาพิจารณาค่า Ft ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่แท้จริงใหม่” นายวีระพลกล่าว
น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) กล่าวว่า ระหว่าง 16-28 ก.ย.จะเปิดรับฟังความเห็นการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าปี 2558 ซึ่งภาพรวมได้มีการพิจารณาทบทวนแผนการลงทุนของ 3 การไฟฟ้า ตลอดจนแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้า การลงทุนของ 3 การไฟฟ้า รวมถึงนโยบายของรัฐในการดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีรายได้น้อย ทำให้โครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่เมื่อรวมกับค่า Ft จะลดลงได้ 1.05 สต.ต่อหน่วย
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ลดลงได้ส่วนหนึ่งมาจากการพิจารณากำกับดูแลเงินลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง โดยในปี 2554-2556 พบว่าการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งมีเงินลงทุนที่ต่ำกว่าแผนรวมเป็นเงินประมาณ 25,696 ล้านบาท
“กกพ.ได้เห็นชอบโครงสร้างค่าไฟปี 2558 (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สาระสำคัญคือ ในส่วนอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีกเฉลี่ยลดลงจำนวน 1.05 สต.ต่อหน่วย อัตราค่าไฟฟ้าขายส่งเฉลี่ยลดลงจำนวน 2.12 สต.ต่อหน่วย และอัตราเงินอุดหนุนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ด้อยโอกาสตามนโยบายค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และไฟฟ้าสำรอง ลดลงจากเดิม 2.65 สตางค์/หน่วย เหลือ 2.58 สตางค์/หน่วย หรือลดลงจำนวน 0.07 สตางค์/หน่วย” น.ส.นฤภัทรกล่าว
สำหรับการกำหนดอัตราค่าบริการรายเดือน เห็นควรให้คงอัตราค่าบริการรายเดือนสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทเท่ากับปัจจุบัน และทั้งนี้ ให้ กฟภ.รับภาระค่าธรรมเนียมหักบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าในลักษณะเดียวกับ กฟน.ในปัจจุบัน เพื่อให้มีการบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันยิ่งขึ้น ซึ่งอัตรารายเดือนสำหรับค่าไฟฟ้าประเภทที่บ้านที่อยู่อาศัยทั่วไปยังอยู่ที่ 38.22บาทต่อเดือน