ทอท.เกลี่ยพื้นที่เชิงพาณิชย์อาคาร 1, 2 ดอนเมืองจัดโซนนิ่งใหม่ เจรจา “คิงเพาเวอร์-เดอะมอลล์กรุ๊ป” ปรับย้ายภายใต้เงื่อนไขพื้นที่เท่าเดิม สรุปรูปแบบธุรกิจของบอร์ด 22 ก.ย.นี้ ส่วนภูเก็ตใช้หลักเดียวกัน จัดโซนนิ่งเสร็จแล้ว เหลือรอสรุปรูปแบบธุรกิจ
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน ในวันที่ 22 ก.ย.นี้จะเสนอแผนการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในการเปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของท่าอากาศยานดอนเมือง และอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานภูเก็ต โดยคณะกรรมการรายได้ของ ทอท.ได้สรุปรูปแบบธุรกิจแล้ว โดยในส่วนของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินดอนเมืองซึ่งเลื่อนกำหนดเปิดจากวันที่ 1 ต.ค. 2558 ไปเป็นปลาย พ.ย. 2558 นั้นจะเป็นการให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศ
ทั้งนี้ หลักการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนเพิ่มในอาคาร 2 จะมีการจัดโซนนิ่งเพื่อปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานและการให้บริการร่วมกับอาคาร 1 ที่จะเป็นการบริการผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยให้ความสำคัญเรื่องความคล่องตัวของผู้โดยสาร ความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัย พร้อมกันนี้ จะต้องเจรจากับ บริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งได้รับสัญญาสัมปทานพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และเดอะมอลล์กรุ๊ป ผู้รับสัมปทานผู้ประกอบการพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคาร 1 เพื่อความเป็นธรรมภายใต้เงื่อนไขสัญญาเดิม คือจำนวนพื้นที่เท่าเดิม และอายุสัญญาเท่าเดิม
“หลักๆ คือจะต้องประเมินจำนวนผู้โดยสารที่ผ่านพื้นที่แต่ละส่วน และทางเดินไปยังแต่ละ GATE จากนั้นต้องมาตกลงกับเดอะมอลล์ว่าปรับพื้นที่ร้านค้าอย่างไร ตรงไหนบ้าง เพราะจะมีร้านบางส่วนของเดอะมอลล์ย้ายมาอาคาร 2 โดยพื้นที่รวมต้องเท่าเดิม ซึ่งจะทำให้อาคาร 1 มีที่ว่าง ซึ่งจะเจรจากับคิงเพาเวอร์เช่นกันเพื่อขยับปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และเมื่อจัดสรรแล้วพื้นที่ส่วนที่เหลือ ทอท.จะนำมาพิจารณาจัดสรรเป็นพื้นที่เช่าเพิ่มเติมโดยทำสัญญาตรงกับผู้ประกอบการรายย่อยต่อไป ซึ่งร้านค้าทั้งหมดจะสรุปและเปิดให้บริการพร้อมกับการเปิดใช้อาคารหลังที่ 2” นายนิตินัยกล่าว
สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์อาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ตนั้นจะมีการตกแต่งอาคารใหม่ดังนั้น การจัดสรรเรื่องพื้นที่เชิงพาณิชย์จะต้องมีความสอดคล้องกับตัวอาคาร เบื้องต้นจะเสนอบอร์ดเห็นชอบในหลักการก่อนจากนั้นจะสรุปรูปแบบธุรกิจภายหลัง อย่างไรก็ตาม สัมปทานดิวตี้ฟรีที่สนามบินภูเก็ตจะครบสัญญาในปี 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม โดยอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ตจะก่อสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 14 ก.พ. 2559 มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือน พ.ค. 2559
นายนิตินัยกล่าวว่า สัดส่วนรายได้จากกิจการที่เกี่ยวกับการบิน (Aero) กับกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน (Non Aero) ปัจจุบันอยู่ที่ 60:40 แม้ว่า ทอท.จะมีการเปิดพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่ม แต่เนื่องจากการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบินมีอัตราสูงมาก ดังนั้น ขณะนี้จึงต้องพยายามรักษาสัดส่วนไว้ก่อน และจึงจะเพิ่มสัดส่วนของ Non Aero มากกว่า 40% ยังคงเป็นไปได้ยาก
รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาสัมปทานพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ของบริษัท คิงเพาเวอร์ จำกัด พื้นที่ 1,100 ตร.ม. โดยคิง เพาเวอร์ฯ เสนอผลตอบแทนเดือนละ 63 ล้านบาท หรือปีละ 756 ล้านบาท และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็นผู้ประกอบการโครงการบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์ประเภทสินค้าและบริการ และประเภทอาหารเครื่องดื่ม พื้นที่ 2,700 ตร.ม. โดยเดอะมอลล์ฯ เสนอผลตอบแทนเดือนละ 16.7 ล้านบาท หรือปีละ 200 ล้านบาท โดยมีอายุสัญญา 10 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2555-30 ก.ย. 2565
