ทอท.ขยายอายุสัญญาเช่าร้านค้าในสนามบินดอนเมืองทั้งหมด ไปจนถึงเปิดให้บริการอาคาร 2 พร้อมเร่งสรุปโซนนิ่งและอัตราค่าเช่าใหม่ก่อนเปิดประมูลทำสัญญาพร้อมกันเป็นล็อตใหญ่ “ประสงค์” ลงพื้นที่เร่งงานปรับปรุงดอนเมืองเฟส 2 ขีดเส้นเสร็จใน ส.ค.นี้
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 เม.ย.) ตน พร้อมด้วยนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. จะลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการปรับปรุงพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเร่งรัดให้สามารถเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสาร 2 ได้ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อลดความแออัดของอาคารผู้โดยสาร 1 พร้อมกันนี้ จะดูพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร 2 ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการจัดแบ่งเป็นโซนนิ่งเพื่อความสะดวกในการให้บริการ และมีการเปิดประกวดราคาคัดเลือกผู้ประกอบการเข้ามาให้บริการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า แนวทางในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้นจะนำพื้นที่ทั้งหมด ทั้งอาคาร 1, 2 มาจัดโซนนิ่งใหม่ พร้อมทั้งมีการกำหนดอัตราค่าเช่าใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเฉพาะพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร 2 นั้นมีประมาณ 24,000 ตารางเมตร โดย ทอท.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาช่วยจัดสรรพื้นที่และกำหนดอัตราค่าเช่าใหม่ ดังนั้น ขณะนี้จึงต้องมีการขยายอายุสัญญาเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ของผู้ประกอบการทุกรายที่จะหมดอายุสัญญาตั้งแต่ในช่วงเดือนเมษายนออกไปอย่างน้อยถึงเดือนกันยายน 2558 เพื่อรอให้การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารและการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะ 2 แล้วเสร็จ จากนั้นจะนำทั้งหมดมาจัดประกวดราคาใหม่ และเริ่มสัญญาเช่าพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งยอมรับว่าจะทำให้ ทอท.มีรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น
“หลักการคือ จะต้องเปิดประมูลคัดเลือกแต่ละสัญญา แต่ละพื้นที่ โดยจะให้สิทธิ์ผู้ประกอบการรายเดิมที่มีสัญญากับ ทอท.ในการเข้ามาประมูลก่อน ซึ่งในส่วนนี้จะไม่เกี่ยวกับสัญญาสัมปทานพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ของบริษัท คิงเพาเวอร์ และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ผู้ประกอบการพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่มีอายุสัญญา 10 ปี 1 ต.ค. 2555-30 ก.ย. 2565)” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองระยะ 2 วงเงิน 3,304 ล้านบาท ประกอบด้วย งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร 2 งานติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า งานระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบไอที งานซ่อมแซมทางเชื่อม South Corridor งานซ่อมอาคารสะพานเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 (Pier 5) เป็นต้น ซึ่ง ทอท.ได้ปรับการดำเนินงานจากวิธีพิเศษเป็นเปิดประมูลเพื่อความโปร่งใสทำให้การเปิดให้บริการจะล่าช้าจากกำหนดเดิมภายในปี 2557 เป็นเดือน ต.ค. 2558 ซึ่งจะเพิ่มขีด ความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 18.5 ล้านคนเป็น 30 ล้านคนต่อปี โดยล่าสุดบอร์ด ทอท.ได้เร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือน ส.ค. 2558 ส่วนการเปิดให้บริการจะมีการพิจารณาเพื่อกำหนดชัดเจนต่อไป
