ข่าวดี! พรุ่งนี้แอลพีจีลดลง 0.67 บาทต่อ กก.หรือ 10 บาทต่อถัง 15 กก. แถมด้วยแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร จูงใจใช้โซฮอล์ 95 ปูทางเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 แต่ข่าวร้ายสำหรับรถใช้ NGV ราคาขยับขึ้น 0.50 บาทต่อ กก. ทำให้ราคาขยับเป็น 13.50 บาทต่อ กก. ส่วน NGV สำหรับรถสาธารณะคงเดิมที่ 10 บาทต่อ กก.
วันนี้ (7 ก.ย. 2558) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซ LPG เดือนกันยายน 2558 ตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคา ณ โรงกลั่นแบบถ่วงน้ำหนักซึ่งอิงราคาตลาดโลกที่ลดลง 50 เหรียญสหรัฐต่อตันมาอยู่ที่ 327 เหรียญต่อตัน ส่งผลให้ราคาขายปลีก LPG ลดลง 0.67 บาท/กก.จากปัจจุบัน 22.96 บาท/กก. เป็น 22.29 บาท/กก. หรือราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มลดลง 10 บาท/ถัง 15 กก. พร้อมกันนี้ได้พิจารณาปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV 0.50 บาทต่อ กก.จากราคาปัจจุบัน 13 บาทต่อ กก. เป็น 13.50 บาทต่อ กก. เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง มีผลตั้งแต่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป
“ราคา NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะอยู่ที่ 10.00 บาท/ กก.เหมือนเดิม ซึ่งหลักการแล้วจะต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งขณะนี้พบว่าต้นทุนจริงราคาจะอยู่ที่ 15.52 บาทต่อ กก. และมีแนวโน้มราคาช่วง ต.ค.-ธ.ค.นี้จะลดเหลือ 14.50-15 บาทต่อ กก.ก็จะดูอีกทียังตอบไม่ได้ว่าจะขึ้นอีกหรือไม่ขึ้นหากราคาโลกลดอาจไม่ต้องขึ้นก็ได้” รมว.พลังงานกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากเดิมเก็บที่ 0.45 บาท/ลิตร ลดลงเหลือ 0.05 บาท/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 E10 ลดลง 0.40 บาท/ลิตร และให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จากเดิมชดเชยให้ 0.05 บาท/ลิตร เป็นเก็บเพิ่ม 0.005 บาท/ลิตร แต่ไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2558 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังได้พิจารณาแผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อความมั่นคง รองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ทั้งจากภาคการผลิตไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง โดยได้พิจารณาเห็นชอบโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas Pipeline Network) ให้ดำเนินโครงการลงทุนในระยะที่ 2 ขยายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 2 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 110,100 ล้านบาท และเห็นชอบกรอบโครงการลงทุนในระยะที่ 3 โดยมอบหมายให้ ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ พร้อมติดตามแนวโน้มความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาใช้ทบทวนรายละเอียดการดำเนินโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชน