xs
xsm
sm
md
lg

เชลล์จีบ ปตท.ของแจมคลัง LNG ที่พม่า ส่วนคดีปลูกปาล์มที่อินโดฯ อยู่ในขั้นตอนศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ไพรินทร์ ชูโชติถาวร
ปตท.เจรจาเชลล์ผุดโครงการคลังแอลเอ็นจีรูปแบบ FSRU ที่พม่า หลังจากเชลล์ต้องการนำเข้าแอลเอ็นจีป้อนโรงไฟฟ้าในทวาย ขณะที่ไทยมุ่งนำเข้าแอลเอ็นจีป้อนในไทยเป็นหลัก คาดได้ข้อสรุปเลือกที่ตั้งคลังแอลเอ็นจีในเร็วๆ นี้ ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหายผู้บริหาร ปตท.สผ.คดีปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซีย อยู่ระหว่างรอศาลนัดฟังคำให้การและนัดชี้สองสถาน

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการทำคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)ในรูปแบบ FSRU ที่ประเทศพม่าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเลือกทำเลที่เหมาะสมตั้งคลังแอลเอ็นจีลอยน้ำขนาด 3 ล้านตันจาก 2 พื้นที่ คือ ทวาย กับ KANBUAK ซึ่งเป็นจุดที่ท่อส่งก๊าซฯ ยาดานา และเยตากุนขึ้นก่อนที่จะส่งก๊าซฯ ป้อนไปยังประเทศไทย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ล่าสุดทางเชลล์ได้เข้ามาเจรจากับ ปตท.เพื่อร่วมทำคลังแอลเอ็นจีด้วยกัน เนื่องจากเชลล์มีแผนจะใช้ก๊าซแอลเอ็นจีป้อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่นิคมอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งทวายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะตั้งคลังแอลเอ็นจีลอยน้ำของ ปตท.เช่นกัน ขณะที่ ปตท.มีแผนจะนำแอลเอ็นจีมาป้อนในไทยรองรับความต้องการใช้ในประเทศ

“หากเชลล์จะนำเข้าแอลเอ็นจีเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กในทวายจะใช้เงินลงทุนสูง ดังนั้นเชลล์จึงมาพูดคุยกับ ปตท.ว่าจะร่วมทำโครงการดังกล่าว เนื่องจากโครงการคลังแอลเอ็นจี FSRU ของ ปตท.มีขนาดใหญ่ โดยเราเน้นนำแอลเอ็นจีป้อนในไทยเป็นหลัก และยังไม่ได้สรุปเลือกจุดที่ตั้งคลังแอลเอ็นจี FSRU แต่อย่างไร หาก ปตท.ร่วมกับเชลล์ทำโครงการดังกล่าวก็คงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มขนาดคลังแอลเอ็นจี เนื่องจากปริมาณการใช้แอลเอ็นจีของเชลล์ไม่มาก”

โครงการคลังแอลเอ็นจี FSRU ในพม่า ที่ ปตท.อยู่ระหว่างศึกษานั้น มีขนาด 3 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 450 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในฝั่งตะวันตกของไทย โดยโครงการดังกล่าวจะอยู่ในแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงการสรรหา LNG ในอนาคต ที่กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในรอบเดือน ก.ย.

นายไพรินทร์กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่บอร์ด ปตท.และบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) ได้ยื่นฟ้องผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และเรียกค่าเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท หลังจากพบการทุจริตในโครงการปลูกปาล์น้ำมันที่อินโดนีเซียสมัยที่ถูกดึงตัวมาดูแลโครงการดังกล่าวว่า ศาลแพ่งอยู่ระหว่างรอคำให้การ และนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็น ยังไม่สามารถให้รายละเอียดใดได้มาก

โดยมูลค่าความเสียหายจากโครงการดังกล่าวอยู่ระดับ 2 หมื่นกว่าล้านบาท ขณะนี้ ปตท.ได้ดำเนินการขายโครงการปลูกปาล์มไปแล้ว 4 โครงการจากทั้งหมด 5 โครงการ คาดว่าโครงการสุดท้ายจะขายออกไปในเร็วๆ นี้ ทำให้ ปตท.สามารถสรุปความเสียหายทั้งหมดได้

ก่อนหน้านี้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ พีทีอี ลิมิเต็ด ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาลแพ่งต่อนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สังกัดประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ในขณะถูกดึงตัวมาเป็นผู้อำนวยการโครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์ม ในนามของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยเรียกค่าเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท หลังพบการทุจริตในการดำเนินโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซียทั้งหมด 5 โครงการ
กำลังโหลดความคิดเห็น