“พาณิชย์” บูมจัดมหกรรมการค้า ลงทุน บูมเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดึงเพื่อนบ้านร่วมโชว์สินค้า จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ

“พาณิชย์” เตรียมจัดมหกรรมการค้า การลงทุน บูมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล นำร่องที่ตาก เชิญนักธุรกิจเพื่อนบ้านร่วมโชว์สินค้า จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ พร้อมจัดคาราวานหาลู่ทางการค้า การลงทุนยังเมืองเป้าหมาย เล็งจัดในเขตพิเศษจังหวัดอื่นๆ ต่อไป มั่นใจช่วยสร้างโอกาส SMEs ใช้ประโยชน์จาก AEC และเพิ่มการค้าชายแดน

นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดงานมหกรรมการค้า การลงทุน เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย นำร่องที่จังหวัดตาก โดยศูนย์เครือข่ายธุรกิจเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตาก (Biz Club SEZ Tek) จะเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับจังหวัดตากและสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) จัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย. 2558 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการค้า การลงทุน ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล

โดยแนวทางดำเนินการ จะมีการเชิญภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดตาก และเชิญผู้ประกอบการจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งจากพม่า สปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชา และมาเลเซีย มาเข้าร่วมงาน โดยจะมีการจัดงานแสดงสินค้าของผู้ประกอบการแต่ละประเทศ การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ รวมถึงการเปิดเวทีหารือเพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มความร่วมมือในการทำการค้า การลงทุนระหว่างกัน

ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะจัดคาราวานจับคู่ธุรกิจเดินทางสู่พม่า กำหนดการเบื้องต้นในเดือน ม.ค. 2559 เพื่อนำสมาชิกเครือข่าย BIZ Club และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปจับคู่เจรจาการค้า ณ เมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง และเมืองเมาะละแหม่ง รัฐมอญ

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการต่อยอดโดยใช้เขตพัฒนาเศรษฐกิจที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นในจังหวัดติดชายแดนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนระหว่างนักธุรกิจในพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกระทรวงฯ จะมีการใช้รูปแบบนี้ในการผลักดันให้เครือข่าย Biz Club ในจังหวัดที่อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนำไปใช้ในการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน กับประเทศเพื่อนบ้านทั้งที่จังหวัดมุกดาหาร สระแก้ว ตราด และสงขลาต่อไป

นางดวงกมลกล่าวว่า สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ซึ่งเป็นสมาชิกของ Biz Club จังหวัดตาก โดยล่าสุดมีสมาชิกรวม 460 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอแม่สอดประมาณ 300 ราย ทำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ซ่อมยานพาหนะ ก่อสร้าง และงานบริการ เป็นต้น

“ความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นการสนับสนุนให้ SMEs ใช้ประโยชน์จากเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล และยังเป็นการใช้ประโยชน์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะมีผลในปลายปีนี้ ในการขยายการค้า การลงทุน ตามแนวชายแดน” นางดวงกมลกล่าว

สำหรับมูลค่าการค้าชายแดน ณ ด่านแม่สอด จังหวัดตาก ในช่วง 6 เดือนของปี 2558 มีมูลค่า 32,024 ล้านบาท และคาดว่าถึงปลายปี 2558 จะมีมูลค่าการค้าชายแดนสูงถึง 75,000 ล้านบาท โดยสินค้าที่ส่งออกเป็นลำดับต้นๆ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ รถจักรยานยนต์ เบียร์ น้ำมันเบนซิน ผ้าฝ้ายพิมพ์ น้ำมันดีเซล รองเท้าแตะ โทรทัศน์ ส่วนสินค้านำเข้า ได้แก่ โค กระบือ ถั่วลิสง สินแร่ สินค้าเกษตร เป็นต้น

ปัจจุบันศูนย์เครือข่ายธุรกิจ Biz Club ได้มีการเปิดแล้วใน 38 จังหวัด มีสมาชิกรวมกว่า 3,700 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นการจัดตั้งขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็น รมว.พาณิชย์ ถึง 17 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี พะเยา ตาก เลย นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ แม่ฮ่องสอน แพร่ ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ระนอง สตูล และมหาสารคาม