อีสท์วอเตอร์ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 10% จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ยังมีอยู่ รวมทั้งจ่อยื่นสัมปทานประปาที่พม่า 2 เมือง มั่นใจเห็นการลงทุนแน่ในปี 59 แย้มปีนี้รายได้พุ่งเกินเป้าโต 10% ลั่นนำ UU เข้าตลาดหุ้นในไตรมาส 1/59
นายนำศักดิ์ วรรณวิสูตร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) (อีสท์วอเตอร์) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯ คาดว่ารายได้เติบโตขึ้นจากปีนี้ 10% เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งน่าจะยังมีอยู่จากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำยังต่ำกว่าเกณฑ์ ทำให้มีความต้องการใช้น้ำดิบในการทำน้ำประปาเพิ่ม แต่ยืนยันว่าปีหน้าภาคตะวันออกทั้งระยอง ชลบุรี จะไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำเช่นเดียวกับปีนี้ เพราะมีระบบท่อเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์-คลองใหญ่แล้วยังมีโครงการท่อเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างหนองปลาไหล 2 และอ่างเก็บน้ำมันคลองทับเข้ามาเสริม ทำให้เพิ่มปริมาณน้ำได้อีก 150 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/ปี
ขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทราปริมาณน้ำสำรองในอ่างเก็บน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ โดยจะนำน้ำจากอ่างเก็บน้ำบางพระมาช่วยพื้นที่ฉะเชิงเทราในกรณีที่มีปัญหาน้ำขาดแคลน
โดยปีนี้อีสท์วอเตอร์คาดว่าจะมีรายได้โตขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4.3 พันล้านบาท สูงกว่าที่วางเป้าหมายเดิมไว้ 6-7% ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณน้ำดิบและน้ำประปาที่เติบโตขึ้นเฉลี่ย 10% มาอยู่ที่ระดับ 300 ล้าน ลบ.ม./ปี เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำฝนยังไม่มาก ขณะที่ความต้องการใช้น้ำยังมีอยู่ต่อเนื่อง ทำให้บริษัทยังต้องส่งน้ำไปช่วยในพื้นที่ฉะเชิงเทราเพื่อผลิตประปาอยู่
ส่วนแผนการลงทุนในปีหน้าจะยังเป็นการลงทุนโครงการต่อเนื่องจากปีนี้ ทั้งโครงการท่อเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์ 2 และอ่างเก็บน้ำคลองทับมา ใช้เงินลงทุนรวม 1.5-2 พันล้านบาท รวมทั้งบริษัทมีแผนที่จะยื่นทำธุรกิจผลิตน้ำประปาและวางท่อส่งน้ำใน 2 เมืองที่ประเทศพม่า โดยจะขอสัมปทานอายุ 30 ปี ใช้เงินลงทุนแห่งละ 200 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจาก MIC ประเทศพม่า โดยบริษัทฯ จะถือหุ้นใหญ่เกิน 70% ที่เหลือเป็นพันธมิตรท้องถิ่น คาดว่าจะเห็นการลงทุนได้ในปี 2559
สำหรับแผนการซื้อกิจการโครงการผลิตน้ำประปาในประเทศลาวนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา แต่เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปเพราะตกลงเรื่องราคาไม่ได้ ดังนั้นบริษัทฯ จึงหันมาให้ความสำคัญต่อการลงทุนในพม่าก่อนเนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพและโอกาสการลงทุนอีกมาก โดยเบื้องต้นโครงการลงทุนธุรกิจประปาในต่างประเทศจะเป็นการลงทุนโดยอีสท์วอเตอร์เพราะใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ ในปีหน้าจะเจรจากับผู้ใช้น้ำเพื่อขอจัดเก็บค่าผันน้ำ 0.50 บาท/ลบ.ม. มาอยู่ในราคาค่าน้ำดิบ เนื่องจากเห็นว่าปัญหาภัยแล้งยังมีต่อเนื่องทำให้บริษัทมีภาระต้นทุนค่าไฟในการผันน้ำส่งป้อนให้แก่ลูกค้าว่าจะยังเก็บเป็นค่าผันน้ำ หรือจะรวมอยู่ในค่าน้ำดิบเลย เพราะในปี 2560 โครงการลงทุนใหม่ 2 โครงการจะแล้วเสร็จ ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น บริษัทฯ จะพิจารณาปรับขึ้นค่าน้ำดิบในปีนั้นด้วย
เข็น UU เข้าตลาดหุ้น Q1/59
นายนำศักดิ์กล่าวถึงความคืบหน้าการนำบริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ จำกัด หรือ UU เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ในวันที่ 10 ส.ค.จะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอีสท์วอเตอร์เพื่ออนุมัติให้ UU ซื้อหุ้นบริษัท เอ็กคอมธารา จำกัด สัดส่วนหุ้น 74.19% คิดเป็นวงเงิน 1.6 พันล้านบาท และอนุมัติการนำ UU เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย โดยจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน UU 420 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ให้แก่บุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ได้ในช่วงไตรมาส 1/2559 ล่าช้ากว่าเดิมที่คาดว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในไตรมาส 4/2558
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะยื่นไฟลิ่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในต้นเดือน ก.ย.นี้ โดยเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุน UU จะนำมาใช้ในการซื้อเอ็กคอมธารา และใช้ในการขยายการลงทุนธุรกิจน้ำประปาและบำบัดน้ำเสีย ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีการเจรจากับนิคมอุตสาหกรรม 3-4 แห่งในจังหวัดระยองที่เป็นลูกค้าเดิมเพื่อขยายขอบข่ายการให้บริการ จากเดิมจำหน่ายน้ำดิบเพิ่มการจำหน่ายน้ำประปาและบำบัดน้ำเสียด้วย
วันนี้ (28 ก.ค.) บริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทิลิตี้ส์ จำกัด ลงนามสัญญาจ้างบริการและบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสียโครงการนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง กำลังผลิตอยู่ที่ 6 พัน ลบ.ม./วัน ตั้งแต่ปี 2560-2589 คาดว่าจะรับรู้รายได้ตลอดอายุสัญญา 1 พันล้านบาท
