“คมนาคม” ยันโครงการในงบปี 58 เดินได้ตามแผนผูกพันงบประมาณได้ 100% ไม่มีตกหล่น รอพิสูจน์ผลงานสิ้น ส.ค.หลังปิดบัญชีงบประจำปี พร้อมแจกแจงรายละเอียดเงินลงทุน เร่งเครื่อง ส.ค.-ก.ย.เสนอ ครม.อนุมัติ 18 โครงการ พร้อมโชว์มอเตอร์เวย์ 3 สาย ครม.อนุมัติ พร้อมทยอยเปิดประมูลตั้งแต่ ส.ค.-พ.ย.-ธ.ค. 58 อัดเม็ดเงินเข้าระบบกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการดำเนินโครงการตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ของกระทรวงคมนาคมว่า จะสามารถผูกพันได้ 100% ไม่มีโครงการใดตกหล่นแน่นอน โดยโครงการรถไฟทางคู่ 3 โครงการอาจจะล่าช้ากว่าแผนประมาณ 2-3 เดือน แต่จะเปิดประกวดราคาได้ในปี 2558 ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 3 สายจะขยับไปช้าสุดไม่เกินต้นปี 2559 ซึ่งต้องเข้าใจว่าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้านั้นมีปัจจัยที่เข้ามากระทบหลายเรื่อง แต่การดำเนินงานยังอยู่ในกรอบแผนงาน โดยจะพิสูจน์ได้ภายในปลายปี 2558
“โครงการขนาดใหญ่จะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ที่ผ่านมาได้มีการให้ข้อมูลการลงทุนในแต่ละโครงการแต่ละช่วงเวลาและเม็ดเงินในแต่ละปีอย่างชัดเจน แต่หากจะต้องการรายละเอียดแบบนักบัญชีสามารถทำได้ โดยรอหลังเดือน ส.ค.ไปก่อน เนื่องจากทางสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลังจะมีการปิดบัญชี จะเท่ากับไม่ได้เป็นการพูดลอยๆ สามารถยืนยันได้ว่าผูกพันงานได้จริงแต่ละโครงการเป็นเงินเท่าไร ในขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 จะประกาศออกมาเช่นกัน จะเห็นภาพงบต่อเนื่องจากปี 2558-2559 โดยทุกโครงการที่ดำเนินการไม่ได้คิดในแง่เศรษฐกิจอย่างเดียว แต่มองในแง่สังคมด้วย” พล.อ.อ.ประจินกล่าว
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลได้พยายามเร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งโครงการสำคัญในขณะนี้ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วคือ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. วงเงิน 20,200 ล้านบาท จะประกวดราคาในเดือน ส.ค. 2558 โดยเม็ดเงินก้อนแรกจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในเดือน ต.ค. 2558
มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 84,600 ล้านบาท จะประกวดราคาในเดือน ต.ค. 2558 เม็ดเงินก้อนแรกจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค. 2558
และมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงิน 55,620 ล้านบาท จะประกวดราคาในเดือน พ.ย. 2558 เม็ดเงินก้อนแรกจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในเดือน ก.พ.- มี.ค. 2559
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 2 เส้นทาง คือ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงิน 10,992.47 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างในเดือน ก.ย. 2558, ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 26,004.90 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างในเดือนต.ค. 2558 ส่วนช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,290.63 ล้านบาท จะเสนอ ครม.อนุมัติในเดือน ส.ค. 2558
ส่วนรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 29,853.18 ล้านบาท, ช่วงนครปฐม-หัวหิน วงเงิน 20,306.53 ล้านบาท, ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 24,840.54 ล้านบาท อยู่ระหว่างคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งขั้นตอน EIA คืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะเสนอ ครม.ขออนุมัติเพื่อประกวดราคาโครงการก่อน โดยมีเงื่อนไขว่าจะก่อสร้างได้ต่อเมื่อผ่าน EIA แล้ว ซึ่งเรื่อง EIA กระทรวงคมนาคมได้ทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด
***เร่งเครื่อง ส.ค.-ก.ย.เสนอ ครม.อนุมัติ 18 โครงการ
นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอขออนุมัติจาก ครม. ในเดือน ส.ค.-ก.ย. 2558 จำนวน 12 แผนงาน ซึ่งมีถึง 18 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการทางจักรยาน โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระยะหนึ่งแล้วได้ข้อมูลและเป้าหมายว่าในปี 2559 จะมีทางจักรยานครบ 1,000 แห่ง เป็นต้น ซึ่งสามารถนำเสนอโครงการได้แล้ว
2. แผนปฏิบัติการทำให้คลองแสนแสบสะอาดภายใน 2 ปี นโยบายของรัฐบาลตั้งแต่เป็น คสช.ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการหาแนวทางเพื่อดำเนินงานให้ได้เป็นรูปธรรม ซึ่งได้ประชุมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กทม. กรมชลประทาน กรมควบคุมสิ่งแวดล้อม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อจัดทำแผนเสนอ ครม.
3. การเปิดเสรีทางการบินแบบมีเงื่อนไข ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากเดิมที่เปิดเสรีแบบไม่มีเงื่อนไข แต่เนื่องจากปัจจุบันขีดจำกัดทางอากาศมีมากขึ้น 4. การจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง 5. การปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือน (บพ.) โดยตั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมทางอากาศยาน สำนักงานสอบสวนการเกิดอุบัติเหตุ สำนักงานค้นหาและกู้ภัยผู้ประสบภัย 6. การตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย
7. การจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) การพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ซึ่งได้มีการลงนามร่วมกับกองทัพเรือแล้ว มีการประชุมเพื่อกำหนดแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในท่าอากาศยานและภายนอกท่าอากาศยานในการเชื่อมต่อการเดินทางและการเชื่อมต่อจากท่าอากาศยานอู่ตะเภาไปยังท่าเรือจุกเสม็ด
8. โครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ได้สรุปผลการศึกษาในการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Clearing-house) ซึ่งจะต้องเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP จึงต้องเสนอ ครม.อนุมัติในหลักการ
9. โครงการรถไฟฟ้า 4 สาย ประกอบด้วย สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี, สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง, สายสีส้ม(ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี, สายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ
10. โครงการติดตั้งโครงข่ายระบบโทรคมนาคมของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงินประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นในการบริหารกิจการของ ร.ฟ.ท.
11. โครงการรถไฟทางคู่ 4 เส้นทาง ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, ลพบุรี-ปากน้ำโพ,มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ, นครปฐม-หัวหิน 12. การจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ปีงบประมาณ 2559 ภายใต้แผน 8 ปี
สำหรับการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 กระทรวงคมนาคมได้รับงบประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยงบประมาณประจำปีทำงานได้ตามเป้า โดยได้ให้ความสำคัญเรื่องงบลงทุนอย่างมาก ซึ่งสามารถเบิกได้ 70% จากเป้าหมายรัฐบาล 79% ในเดือน ก.ค. ซึ่งในเดือน ก.ย.นี้มั่นใจว่าจะดำเนินทุกโครงการได้ตามเป้าหมาย ประกอบกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคมจะสามารถผูกพันงบประมาณได้ 100% หน่วยงานที่ทำได้เข้าเป้า 81% ทช.สามารถเบิกจ่ายได้ 82% หน่วยงานอื่นๆ สามารถเบิกได้ 69% ขึ้นไป หน่วยงานรัฐวิสาหกิจได้รับงบลงทุนเกือบ 5 แสนล้านบาท ตามแผน 44% สามารถเบิกจ่ายได้ 28% ซึ่งเป็นเรื่องกระบวนการจัดจ้างจะค่อนข้างล่าช้า แต่เมื่อได้ผูกพันงบแล้วการเบิกจ่ายจะรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในเดือน ก.ย.นี้