“โฮมเวิร์ค” เกทับคู่แข่ง จัดงานเอ็กซ์โป อัดโปรโมชันแรงกว่า ทั้งส่วนลด สิทธิพิเศษ หวังกระตุ้นการจับจ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจปีนี้รายได้รวมทะลุ 20,000 ล้านบาท เติบโต 11%
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในเครือธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับแผนการจัดงาน “โฮมเวิร์ค เอ็กซ์โป” ใหม่ โดยจะจัด 3 ครั้งจากเดิมที่จัดเพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น และยังย้ายสถานที่จัดงานจากเดิมที่ไบเทคมาตลอด 18 ปีไปจัดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นครั้งแรกเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าในโซนกรุงเทพฯ เหนือด้วย โดยพบว่ามีลูกค้า 30% ที่ไปร่วมงานที่ไบเทค ซึ่งปีนี้จัดไปแล้ว 1 ครั้ง ล่าสุดจะจัดระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2558 ที่เมืองทองธานี ถือเป็นครั้งแรก แต่ครั้งที่ 3 ปีนี้จะกลับไปจัดที่ไบเทคเหมือนเดิม
ทั้งนี้ วางเป้าหมายรายได้จากการจัดงานนาน 10 วันไว้ที่ 600 ล้านบาท และมีผู้เข้าร่วมงาน 5 ล้านคน เพราะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 กว่าตารางเมตร จากเดิมมีเพียง 20,000 กว่าตารางเมตรเท่านั้น อีกทั้งยังมีความแตกต่างจากการจัดงานสินค้าตกแต่งบ้านของผู้ประกอบการรายอื่นที่เป็นคู่แข่งที่จัดงานสินค้าตกแต่งบ้าน เพราะเรามีเครือข่ายธุรกิจในแต่ละเซกเมนต์มาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์สปอร์ต ซีเอ็มจี, ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต และอื่นๆ ทำให้มีสินค้าหลากหลายมากกว่า
“สิทธิพิเศษและรูปแบบของงานโฮมเวิร์คเอ็กซ์โปยังมีความแตกต่างและมีจุดเด่นมากกว่าคู่แข่งอีกด้วย เช่น ลดแล้วรับส่วนลดเพิ่มสูงสด 40% ในขณะที่คู่แข่งมอบให้เพียง 33% ขณะเดียวกัน เมื่อลูกค้าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเซ็นทรัล ยังรับฟรีบัตรกำนัล 20,000 บาท แต่ของคู่แข่งรับเพียง 17,000 บาท หรือซื้อสินค้าครบทุก 2,000 บาท ลุ้นสิทธิ์ซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง หม้อหุงข้าว ราคา 1 บาท ขณะที่ของคู่แข่งไม่มี”
เมื่อลูกค้าซื้อของเราครบทุก 65,000 บาท ยังรับฟรีไมโครเวฟชาร์ป ขนาด 22 ลิตร มูลค่า 2,190 บาท ส่วนของคู่แข่งต้องซื้อสินค้าตั้งแต่ 300,000 บาท จึงจะได้รับสร้อยคอทองคำหนัก 3 สลึงมูลค่า 15,300 บาท นอกจากนั้นเรายังมีบัตรเครดิตโปรโมชัน 12 แบงก์ ของคู่แข่งแค่ 9 แบงก์
“ส่วนคะแนนสะสมบัตรสมาชิกของเรา ทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน แต่คู่แข่งทุก 30 บาท รับ 1 คะแนน โดยมีโปรโมชันพิเศษ ซื้อสินค้าครบ 10,000 บาท รับคืน 10,000 บาท และรางวัลสำหรับลูกค้ายอดซื้อสูงสุดคือ “โตโยต้า รีโว” ส่วนคู่แข่งเพียงแค่ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ-โตเกียว สำหรับ 20 คนแรก” นายสุทธิสารกล่าวเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นคู่แข่งหลักกำลังอยู่ระหว่างการจัดแคมเปญ “โฮมโปร แบงค็อกเซล 21 วัน 21 สาขา เฮงทุกบ้าน ทั่วกรุงเทพฯ” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระหน่ำโปรโมชันสุดพิเศษ เอาใจคนรักบ้าน ลดทั่วกรุง ลดสูงสุด 80% ตั้งแต่ 16 ก.ค.-5 ส.ค. 58 คุ้มค่า คุ้มราคา และความสะดวกสบายในบริการ “โฮมเซอร์วิส” และส่งฟรีทั่วไทย พร้อมผนึกคู่ค้าขนสินค้ามากระหน่ำลดราคา
นายสุทธิสารกล่าวต่อว่า เหตุที่เราต้องจัดโปรโมชันแรงขนาดนื้และต้องเพิ่มการจัดงานพิเศษอีก 1 รอบเพราะเศรษฐกิจยังไมค่อยดีเท่าไร ยิ่งเมื่อรัฐบาลบอกว่าจะโต 3% ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ เราเช็กข้อมูลทางอสังหาริมทรัพย์ก็พบว่าจะเติบโตแค่ 4% แต่ก็ยังมั่นใจถึงภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่ายังมีแนวโน้มการขยายตัวและมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลในโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐ จึงมั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้รวม 20,000 ล้านบาท เติบโต 11%
ด้าน นางสอางทิพย์ อมรฉัตร รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมนี้เตรียมเปิด ไทวัสดุ สาขาที่ 41 บนพื้นที่ตรงข้ามโรงกษาปณ์ หรือพื้นที่ไทเมล่อนเดิม จำนวน 25 ไร่ ลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาท และจะใช้งบตลาดในการเปิดตัวสาขานี้ 50 ล้านบาท และถึงสิ้นปีนี้จะมีร้านไทวัสดุรวมทั้งสิ้น 41 สาขา หลังจากที่เปิดดำเนินการแบรนด์นี้มานาน 5 ปี ถือว่าขยายสาขาได้รวดเร็วมาก ขณะที่ร้านโฮมเวิร์คเดิมนั้น ปัจจุบันเหลือ 5 สาขา จากเดิม 7 สาขา เนื่องจากล่าสุดได้ปิด 2 สาขาคือที่เพชรเกษม กับรังสิต เนื่องจากพื้นที่เล็กเกินไป
“ตอนนี้เศรษฐกิจโลกก็ไม่ค่อยดี ประเทศกรีซก็เผชิญกับปัญหาทางการเงิน หรือแม้แต่จีนที่เข้าใกล้ภาวะฟองสบู่แตก เราจึงต้องช่วยกันกระตุ้นภาวะการจับจ่ายให้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจากนี้ไปสถานการณ์น่าจะดีขึ้นแล้ว ซึ่งพบว่าตอนนี้ยอดการใช้จ่ายของลูกค้ามีประมาณ 1,300 บาทต่อบิล และคาดว่ายอดซื้อต่อบิลในงานจะเพิ่มขึ้น 20%”