“เดอะวันการ์ด” ปรับแผนรับกำลังซื้อหด จับมือ “คาลเท็กซ์” เปิดตัวแคมเปญ “เติมปั๊บ รับคะแนนทุกลิตร” หวังเพิ่มประโยชน์และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ในการใช้บัตร “เดอะวันการ์ด” มากขึ้น สู่ปลายปีมีฐานสมาชิกร่วม 2 ล้านราย ฟาก “คาลเท็กซ์” พร้อมปั๊มสาขาเพิ่มอีก 60 สาขาภายในปี 59
นายระวี พัวพรพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายบริหารลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ดูแลในส่วนบัตร “เดอะวันการ์ด” เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการให้บริการรูปแบบบัตร “เดอะวันการ์ด” ภายใต้แนวความคิด “เพิ่มความสุข ทุกการจับจ่าย” ถือเป็นการสร้างรอยัลตีโปรแกรมให้แก่กลุ่มลูกค้าในเครือเซ็นทรัล ด้วย 8 กลุ่มธุรกิจ ทั้งค้าปลีก พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมกว่า 3 พันสาขาทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่าปัจจุบันมีฐานสมาชิกบัตร “เดอะวันการ์ด” กว่า 11.5 ล้านรายแล้ว
ล่าสุดในปีนี้บริษัทฯ พร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรนอกกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์และหวังเพิ่มฐานลูกค้าใหม่เข้ามามากขึ้น โดยได้จับมือกับ “คาลเท็กซ์” ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันที่มีจำนวนกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ ภายใต้แคมเปญ “เติมปั๊บ รับคะแนนทุกลิตร! คาลเท็กซ์ 1 ลิตร = The 1 Card 1 คะแนน” มั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้สมาชิกบัตร “เดอะวันการ์ด” เพิ่มเป็น 2 ล้านราย
นายระวีกล่าวต่อว่า ปัจจุบันพบว่าลูกค้ามีการรีดรีมชัน หรือแลกคะแนนเพื่อซื้อสินค้าในกลุ่มเซ็นทรัลเพิ่มขึ้นเป็น 85% จาก 80% ในปีก่อน เมื่อเทียบกับจำนวนฐานสมาชิกทั้งหมด ส่วนสำคัญมาจากการที่ลูกค้ามองในเรื่องของความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากขึ้น รู้จักการใช้พอยต์สร้างรอยัลตี เข้าใจและยอมรับการใช้บริการบัตร “เดอะวันการ์ด” มากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้อหดตัว การรีดรีมชันแลกคะแนนเพื่อซื้อสินค้าจึงมีเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้
อย่างไรก็ตาม “คาลเท็กซ์” ถือเป็นพันธมิตรนอกกลุ่มเซ็นทรัลรายแรกที่มีความร่วมมือกันกับบัตร “เดอะวันการ์ด” หลังจากนี้จะมีการทำโค-โปรโมชันร่วมกันกับร้านแฟมิลี่มาร์ทและท็อปส์ที่มีรวมกันกว่า 20 สาขาในปั๊มคาลเท็กซ์เพื่อใช้สะสมและแลกคะแนนเดอะวันพอยต์ ขณะที่ในกลุ่มเซ็นทรัลในปีหน้าจะมีความร่วมมือกับ 2 กลุ่มธุรกิจที่เหลือ คือ กลุ่ม CRG หรือร้านอาหาร และกลุ่มโรงแรม ในการใช้บัตร “เดอะวันการ์ด” ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบัน CRG มีฐานลูกค้าบัตรแบบเติมเงินอยู่แล้ว 1-2 แสนราย และทางโรงแรมมีฐานลูกค้าอยู่แล้วส่วนหนึ่งเช่นกัน
ด้าน นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟร่อน (ไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ปัจจุบันในภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำมันรีเทล บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 6% และอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์มีส่วนแบ่ง 20% ซึ่งปัจจุบันทั่วประเทศมีจำนวนปั๊มคาลเท็กซ์กว่า 400 สาขา และจากแผนปี 2557-2559 จะเน้นขยายสาขาเพิ่มอีก 60 สาขา โดยงบลงทุนแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่และทำเล
“การขยายสาขาจะเน้นพื้นที่และทำเลที่มีศักยภาพ มุ่งขยายสาขาเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ขณะที่ในจำนวน 400 สาขานั้นมีซูเปอร์มาร์เกตของเซ็นทรัลอยู่ 2 แบรนด์ คือ แฟมิลี่มาร์ท และท็อปส์รวมกันราว 20 สาขา หลังจากนี้ยังมีแผนที่จะมีความร่วมมือขยายสาขาให้มากขึ้น ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับผู้เช่าและเจ้าของปั๊มน้ำมันด้วย” นายซาลมานกล่าว