ASTVผู้จัดการรายวัน - “BONCAFEVino” โอดลูกค้าไม่เข้าใจนโยบายบริษัทฯ ไม่ต้องการเก็บค่า Open Food เพียงเตือนไม่ให้ใช้สถานที่เจรจาธุรกิจโดยเฉพาะ “ขายตรง” ย้ำประกาศใช้มากว่า 1 ปีไม่เคยมีปัญหา ยันกลุ่มลูกค้าที่มีปัญหาก็จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มเพียง 260 บาทเท่านั้น
ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อมูลทางเฟซบุ๊ก เรื่อง ร้านกาแฟ “BONCAFEVino” เรียกเก็บค่าบริการในส่วนที่เรียกว่า “Open Food” จำนวน 2 พันบาท จนทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจและมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในทิศทางที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมาก ตลอดจนเกิดข้อสงสัยในการบริหารจัดการร้านและแนวทางการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ นั้น
น.ส.ภาวิณี เขตพนาสัณฐ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านอาหาร “BONCAFEVino” (บอนคาเฟ่วีโน่) เปิดเผยว่า นโยบาย Open Food เป็นของบริษัทฯ ที่ประกาศใช้มาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยเป็นเพียงมาตรการแจ้งเตือนลูกค้าเท่านั้น เนื่องจากไม่ต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้สถานที่ในการเจรจาธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจขายตรงซึ่งเท่ากับเป็นการตัดโอกาสการเข้ามาใช้บริการของลูกค้ารายอื่นๆ โดยที่ผ่านมาลูกค้าต่างเข้าใจและไม่เคยเกิดปัญหาขึ้นเลย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สาขาใหญ่ ชั้น 1 อาคารเมืองไทย-ภัทร ถ.รัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มลูกค้าจำนวน 4 ท่านเข้ามาใช้บริการของร้านตั้งแต่เวลา 15.40-18.20 น. พร้อมกับมีการนำโน้ตบุ๊กมาใช้พูดคุยงานกันเป็นเวลารวมทั้งสิ้นเกือบ 4 ชั่วโมง โดยสั่งอาหารและเครื่องดื่มเป็นจำนวนเงิน 260 บาท
“เราออกบิลคิดค่าบริการสำหรับนั่งคุยธุรกิจชั่วโมงละ 1 พันบาทจริง แต่ก็ไม่ได้เก็บเงินจริงตามนั้นเพราะต้องการเตือนให้ลูกค้ารับทราบเท่านั้น โดยเราจะเก็บเฉพาะค่าอาหารและเครื่องดื่ม ขณะเดียวกันภายในร้านก็มีป้ายแจ้งเตือนแล้วว่าไม่ต้องการให้ใช้สถานที่เพื่อเจรจาธุรกิจ จนกระทั่งพนักงานนำบิลมาแสดงลูกค้าก็โวยวายแสดงความไม่พอใจและเดินออกจากร้านไปโดยไม่ยอมชำระค่าอาหารและเครื่องดื่ม แต่ภายหลังก็มีลูกค้า 1 ใน 4 ท่านนำกลับมาจ่ายให้” น.ส.ภาวิณีกล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้ บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านอาหาร “BONCAFEVino” (บอนคาเฟ่วีโน่) ขอชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้นดังนี้
1. ร้าน BONCAFEVino มีนโยบายขอความร่วมมือกับลูกค้า ไม่ให้ใช้สถานที่สำหรับเป็นที่ประชุม หรือขายตรง อันส่งผลถึงข้อจำกัดในการใช้สถานที่ของลูกค้าที่ต้องการมาเพื่อรับประทานอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือช่วงเวลาที่มีผู้ต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยได้มีป้ายเตือนถึงการเรียกเก็บค่าบริการใช้สถานที่หากใช้ผิดวัตถุประสงค์ รวมถึงการกล่าวแจ้งด้วยวาจาทั้งสองทาง ซึ่งแม้จะกำหนดนโยบายออกไปเช่นนี้ แต่ในทางปฏิบัติร้านบอนคาเฟ่วีโน่ก็ไม่เคยเรียกเก็บเงินจากลูกค้าจริงและรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความเข้าใจจากลูกค้ามาโดยตลอด
2. สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา ลูกค้าอาจไม่ทันได้สังเกตป้ายเตือนบนโต๊ะ หรือป้ายอาจไม่เด่นชัดพอ เมื่อลูกค้าได้เรียกเช็กบิลทางพนักงานได้นำบิลไปเสนอพร้อมทั้งชี้แจงเพื่อให้ลูกค้ารับทราบ ซึ่งลูกค้ายืนยันไม่ยินยอมที่จะจ่าย ทางร้านก็อนุโลมไม่เรียกเก็บค่าคุยธุระแต่อย่างใด แต่ได้ขอให้รับผิดชอบเฉพาะค่าเครื่องดื่ม และอาหารจำนวน 260.00 บาท ซึ่งลูกค้าก็ได้ชำระเงินมาเป็นจำนวนดังกล่าว
บริษัทฯ มองเห็นปัญหาจากการสื่อสาร อันทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่พอใจ และจะดำเนินการแก้ไขวิธีการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันข้อขัดแย้งอื่นที่จะตามมา ทั้งนี้ บอนกาแฟ ประเทศไทย ใคร่ขอให้ทุกท่านโปรดเข้าใจในสถานการณ์ดังกล่าวและขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด
บอนกาแฟขอชี้แจงกรณีลูกค้าร้องเรียน ร้านกาแฟบอนคาเฟ่วีโน่ เหตุเก็บเงินค่านั่งจากกรณีโพสท์แชร์ทางเฟสบุ๊ค เรื่องร้านบอนคา...
Posted by Boncafe Thailand on Thursday, July 9, 2015
อนึ่ง ข้อความที่มีการโพสต์เริ่มต้นเป็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Atipoj Srisukhon โพสต์ข้อความว่า
เรียน พี่ๆ น้องๆ ครับ
เมื่อวานผมเดินทางเข้า กทม. เพื่อทำธุระ มีเวลาว่างเลยแวะทานกาแฟที่ Bon coffee สาขาหน้าเมืองไทยประกันชีวิต ถนนรัชดาภิเษก (มีคุยธุระเป็นปกติของคนทานกาแฟ) นั่งทานทั้งหมด 4 คน นั่งอยู่ได้ประมาณ ชม.กว่าๆ จึงเรียก พนง. มาเก็บเงิน
หลังจากนั้น พนักงานแจ้งว่า มีคุยธุระการงาน ขอเรียกเก็บเงินค่าคุยธุระ ชม. ละ 1000 บ. รวมสองชม. คิดค่านั่งในร้านเพิ่มอีก 2000 บาท เป็นค่านั่งคุยธุระการงานในร้าน
ผมควรทำอย่างไรดีครับ พี่ๆ น้องๆ
กินกาแฟยุคนี้มีค่านั่งคุยด้วย
เดี๋ยวผมจะส่งบิลให้ดูนะครับ เงินส่วนที่เก็บเพิ่มเค้าเรียกว่า "open food" ครับ
เค้าไม่ได้ติดไว้ที่หน้าร้านแต่ทำเป็นกระดาษแผ่นเล็กมากๆ วางไว้บนโต๊ะ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นเลยครับ เพราะบนโต๊ะมีอุปกรณ์ต่างๆ วางอยู่จนบังไม่เห็นกระดาษเล็กๆ แผ่นนี้
ขณะที่ผู้โพสต์ข้อความและรูปดังกล่าว ล่าสุดได้ลบไปแล้ว แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันในสังคมออนไลน์จำนวนมาก จากเหตุที่ผู้โพสต์ตอบคำถามสมาชิกเว็บไซต์ไม่ตรงกัน อาทิ ในข้อความต้นเรื่องแทนตัวเองว่า ตนประสบเหตุการณ์ แต่พอตอบในช่องแสดงความเห็นกลับกล่าวอ้างว่า เป็นรุ่นพี่โดนมา