ASTVผู้จัดการรายวัน - “เนกซ์สเตป” ทุ่ม 5,000 ล้านบาทอัปเลเวลปั้นแพลตฟอร์มกล่องรับสัญญาณดาวเทียม “ฟรีวิว เอชดี” ชูจุดแข็ง “เอชดี” เจ้าเดียวในตลาด เฟ้นช่องคุณภาพลงแพลตฟอร์มรวม 111 ช่องเท่านั้น เบื้องต้นฟรีค่าเช่าสัญญาณสำหรับเจ้าของช่องที่สนใจ มองอีก 3 ปีรายได้หลักมาจากค่าเช่าแบนด์วิดท์แทนคอนเทนต์โพรวายเดอร์ เชื่อทีวีดาวเทียมไม่ตาย อีก 10 ข้างหน้าเม็ดเงินโฆษณาเข้า 20,000 ล้านบาท
นายฟิลลิป ฮอยเซน หัวหน้าทีมบริหาร หน่วยธุรกิจ ฟรีวิว เอชดี บริษัท เนกซ์สเตป จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมบรอดคาสติ้งของไทยที่เด่นชัดจะมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ ทีวีดาวเทียม กับทีวีดิจิตอล ความหลากหลายมีให้เลือกชมมากมาย โฆษณามีการแย่งชิงลงในคอนเทนต์ที่มีศักยภาพ ส่งผลให้ราคาโฆษณาต่ำ กระจุกตัวไม่เป็นไปตามกลไกของตลาดที่ควรจะเป็น แต่ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าทีวีดาวเทียมยังเป็นแพลตฟอร์มที่ยังคงอยู่ และอนาคตจะมีศักยภาพมากขึ้น
จากตัวเลขเม็ดเงินรวมในอุตสาหกรรมโฆษณา พบว่าปีนี้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีมีอยู่ 75,000 ล้านบาท และหักส่วนลดต่างๆ ออกแล้วมูลค่าจริงอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท โดยกว่า 30% หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทจะอยู่ในช่อง 3 และ 7 ที่เป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ และอีก 10% หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท อยู่ในกลุ่มท็อป 5 ของทีวีดิจิตอล อีก 6% หรือราว 6,000 ล้านบาท อยู่ในกลุ่ม 20 ช่องทีวีดิจิตอล และอีก 4% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท จะอยู่ในกลุ่มท็อป 20 ช่องในทีวีดาวเทียม
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือมีมูลค่าที่ 100,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. ช่อง 3 และช่อง 7 มีส่วนแบ่ง 50% หรือกว่า 50,000 ล้านบาท 2. ท็อป 5 ช่องทีวีดิจิตอล 25% หรือประมาณ 25,000 ล้านบาท 3. 20 ช่องทีวีดิจิตอล 15% มูลค่า 15,000 ล้านบาท และ 4. ท็อป 20 ในช่องทีวีดาวเทียม 20% มูลค่า 20,000 ล้านบาท
ส่งผลให้บริษัทใช้งบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาทไปตลอด 10 ปีนับจากนี้ สร้างแพลตฟอร์มกล่องรับสัญญาณดาวเทียม “ฟรีวิว เอชดี” ขึ้นมา ด้วยจุดแข็งความเป็นเอชดีที่จะมีช่องโทรทัศน์ดาวเทียมในระบบที่ 111 ช่อง และ 40 ช่องออกอากาศในระบบเอชดี ชูจุดเด่นของแต่ละช่องที่นำเสนอโฆษณาระดับกลางสามารถลงโฆษณาได้ ช่องรายการมีกำไรหลังลงทุน 3-5 ปีจะเริ่มเห็นเม็ดเงินมากขึ้น
“สาเหตุที่หันมาลงทุนด้านแพลตฟอร์ม ฟรีวิว เอชดี เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของทีวีดาวเทียมในไทยว่าจะยังคงอยู่ และมีการแข่งขันมากขึ้น เปลี่ยนผ่านจากระบบเอสดีสู่ระบบเอชดี ควบคู่ไปกับช่องทีวีดาวเทียม ที่สำคัญเนกซ์สเตปมีความเชื่อในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ตามแนวคิด เนกซ์สเตป ฟรีวิว เอชดี จะพัฒนาความเป็นอยู่ของครอครับให้ดีขึ้น”
นายฟิลลิปกล่าวต่อว่า รูปแบบการให้บริการกล่องฟรีวิว เอชดี จะเป็นลักษณะฟรีทูแอร์ ออกอากาศด้วยระบบเคยูแบนด์ ผ่านดาวเทียมอินเทลแซท สัญชาติอเมริกา ซึ่งทางบริษัทจะคัดสรรช่องรายการจากทางพันธมิตรต่างประเทศ และทีวีดิจิตอล รวมถึงช่องทีวีดาวเทียมที่อยู่ในท็อปเท็น และช่องจากเน็กซ์สเตป 3 ช่อง คือ สำรวจโลก, มายไซน์ และของดีประเทศไทย ด้วย
เบื้องต้นในปีแรกทางบริษัทจะให้บริการฟรีในค่าเช่าแบนด์วิดท์สำหรับช่องรายการต่างๆ หลังจากนั้นจะมีค่าบริการอยู่ที่ 13 ล้านบาทต่อปีสำหรับช่องเอชดี และ 45.5 ล้านบาทต่อปีสำหรับช่องเอชดี หรือสามารถคุ้มทุนได้ใน 3-5 ปี ในส่วนของผู้ชม เพียงซื้อกล่องฟรีวิว เอชดี ในราคา 1,200 บาท ก็สามารถนำไปติดตัั้งกับทุกจานรับสัญญาณดาวเทียมและรับชมได้ทันที
ทั้งนี้ ในส่วนของการผลิตและจัดจำหน่ายกล่องฟรีวิว เอชดี นั้น บริษัทมอบให้ทางอินโฟแซทเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เบื้องต้นในปีแรกคาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ 500,000 กล่อง ในปีที่ 2 เพิ่มอีก 750,000 กล่อง และปีที่สามอีก 1 ล้านกล่อง หรือรวมแล้วใน 3 ปีจะจำหน่ายได้กว่า 2,250,000 กล่อง คิดเป็น 44.1% ของจำนวนกล่องเคยูแบนด์ ฟรีทูแอร์ ที่อยู่ในตลาด
จากแผนการเปลี่ยนมาเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มฟรีวิว เอชดีครั้งนี้ เชื่อว่าใน 3 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีรายได้หลักจากการให้เช่าแบนด์วิดท์ คิดเป็นสัดส่วนที่ 70-80% และอีก 20% การเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ และผลิตรายการป้อนให้ทีวีดิจิตอล จากปัจจุบันเนกซ์สเตปมีรายได้หลักอยู่ 2 ทาง คือ การเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์
และผลิตรายการป้อนให้ทีวีดิจิตอล ในอัตราส่วน 50% เท่าๆ กัน ซึ่งในปีนี้เชื่อว่าจะมีรายได้รวมโตขึ้นมากกว่าปีก่อนที่ปิดรายได้ไป 140 ล้านบาท
