บอร์ด ขสมก.เมิน “เบสทรินกรุ๊ป” ร้องเรียน เห็นชอบผลประมูลซื้อรถเมล์ NGV ล็อต 489 คัน เดินหน้าตามแผน คาดสัปดาห์หน้าเซ็นสัญญา บมจ.ช.ทวีฯ ยันประมูลถูกต้องโปร่งใส ราคาลดลงได้คันละแสนบาท
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ขสมก.วาระพิเศษ วันนี้ (12 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติวงเงินจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,784.85 ล้านบาท โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะสามารถลงนามในสัญญากับกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ที่มีบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ เป็นผู้ชนะในการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) ได้ หลังจากลงนามสัญญา บริษัท ช.ทวีฯ จะต้องส่งมอบรถครบภายใน 90 วัน โดยล็อตแรกจำนวน 50 คันจะส่งมอบภายในเดือน ก.ค. 58 และจะทยอยส่งมอบรถครบจำนวน 489 คันได้ทันก่อน 90 วัน
ส่วนกรณีที่ บริษัท เบสทรินกรุ๊ป จำกัด ได้ยื่นหนังสือกรณีถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ว่า การประมูบครั้งนี้ไม่โปร่งใส โดยจากที่ ขสมก.เปิดประมูลมีบริษัทสนใจซื้อซองไปกว่า 10 ราย ปรากฏว่าเอกสารของทุกบริษัทไม่ผ่านเงื่อนไข ขสมก. เปิดประมูลครั้งที่ 2 เบสทรินกรุ๊ปได้ส่งเอกสารร่วมประมูลปรากฏว่าไม่ผ่านอีก จนมีการประมูลเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในครั้งนี้มี บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียล มาร่วมยื่นด้วย ซึ่ง บมจ.ช.ทวีฯ ไม่เคยยื่นใน 2 ครั้งแรก โดยผ่านคุณสมบัติมาร่วมเสนอราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-auction กับเบสทรินกรุ๊ป ซึ่งปรากฏว่าเบสทรินกรุ๊ปเสนอราคาสูงกว่า บมจ.ช.ทวีฯ เพียงไม่กี่ล้านบาท
โดยต้องการให้มีการตรวจสอบการประมูลครั้งนี้ โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองราคาค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 นั้น ขสมก.ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคาอีกรายเข้าร่วมเจรจาต่อรองทำให้การจัดซื้อไม่โปร่งใส ซึ่งอาจจะทำให้ราคาจัดซื้อครั้งนี้ไม่ใช่ราคาที่ต่ำสุด อีกทั้งผู้ชนะได้เสนอว่าจะดำเนินการประกอบรถโดยสารในประเทศ แต่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าเป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศ จากข้อมูลทั้งหมดอาจเป็นเหตุให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าได้ นอกจากนี้ ล่าสุดทราบว่ามีคณะกรรมการที่แต่งตั้งจากคณะกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ หรือ คตช.จำนวน 2 ท่าน เป็นนักวิชาการด้านขนส่ง เข้ามาสังเกตการณ์ในการประมูลโครงการนี้ลาออกไปแล้ว เนื่องจากทนเห็นสภาพการประมูลที่ไม่โปร่งใสไม่ไหว และไม่อยากมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองประธานคณะกรรมการบอร์ด คนที่ 1 เป็นผู้ชี้แจง โดย ยืนยันว่า ขสมก.ดำเนินการประกวดราคาตามระเบียบวิธีการของกรมบัญชีกลางทุกขั้นตอน ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดประกวดราคา กรมบัญชีกลางได้แจ้งขั้นตอน ซึ่งฝ่ายบริหารก็ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง สำหรับกรณีการเปิดซองข้อเสนอราคาค่าซ่อมบำรุงเนื่องจากใช้การประกวดวิธีพิเศษ ดังนั้นจะต้องเปิดซองข้อเสนอค่าซ่อมบำรุงพร้อมกันทั้งสองราย ซึ่งเมื่อเปิดแล้วก็ปรากฏว่า บมจ.ช.ทวีฯ เสนอราคาต่ำกว่าเบสทรินกรุ๊ป ทำให้ บมจ.ช.ทวีฯ มีราคารวมทั้งตัวรถและค่าซ่อมบำรุงต่ำกว่าจึงชนะการประกวดราคา ส่วนกรณีการลาออกของผู้สังเกตการณ์นั้นเนื่องจากกระบวนการร่างทีโออาร์เสร็จสิ้นหมดภารกิจก็ต้องลาออกตามขั้นตอน ยืนยันว่ากระบวนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คันจะสามารถเดินต่อไปได้ตามแผนที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม ราคาค่ารถเมล์ NGV ที่ บมจ.ช.ทวีฯ เสนอต่อคันที่ 3.55 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณคันละ 1 แสนบาท ส่วนค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 เสนอที่ 1,850 บาทต่อคันต่อวัน ขณะที่ราคากลางกำหนดไว้ที่ 1,636 บาทต่อคันต่อวัน ซึ่งได้ต่อรองลงมาเท่ากับราคากลาง ค่าซ่อมบำรุงรวมระยะ 5 ปีประมาณ 1,460 ล้านบาท