ASTVผู้จัดการรายวัน-บอร์ดขสมก.การันตี ประมูลซื้อรถเมล์NGV จำนวน 489 คันถูกต้องผลตรวจสอบไม่พบผิดระเบียบ"เอก"ชี้ยิ่งช้าประชาชนยิ่งเสียโอกาส สั่งขสมก.ชี้แจงผลตรวจสอบ"เบสท์รินกรุ๊ป"ให้ชัดเจน พร้อมเรียก กลุ่ม JVCC เซ็นสัญญาใน2 สัปดาห์
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ขสมก.เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ได้มีมติรับรองมติบอร์ดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2558 ที่ได้มีการอนุมัติผลการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV)ล็อตแรก จำนวน 489 คัน ซึ่งกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ที่มีบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการยื่นเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ๊อคชั่น) โดยหลังจากนี้ทาง ขสมก.จะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุ เพื่อลงนามสัญญาต่อไป
ทั้งนี้ บอร์ดขสมก.ได้พิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้แต่งตั้งขึ้นหลังจากมีข้อร้องเรียน โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ประชุม 2 ครั้ง และมีการเชิญผู้ตั้งข้อสังเกต อาทิ นายต่อตระกูล ยมนาค มาให้ข้อมูลแล้วจากนั้นจึงได้สรุปความเห็นรายงานต่อบอร์ด ซึ่งบอร์ดได้ซักถามจนเกิดความชัดเจนทุกประเด็นแล้วจึงเห็นว่าต้องเร่งดำเนินการเพื่อรับมอบรถโดยเร็วที่สุด เนื่องจากยิ่งล่าช้าจะยิ่งเสียเวลาและทำให้ประชาชนเสียโอกาส พร้อมกันนี้ จะมีการชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด และผู้ที่ได้มีการร้องเรียน
“บอร์ดขสมก.ยินดีรับฟังความเห็นหรือข้อท้วงติงจากทั้ง เบสท์รินกรุ๊ป และผู้สังเกตการณ์ อ.ต่อตระกูล จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ข้อฟ้องร้องต่างๆ มีเหตุผลหรือไม่อย่างไร วันนี้ชัดเจนแล้ว ไม่มีปัญหาจึงให้เดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการฟ้องร้องที่ศาลปกครองขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ซึ่งทุกขั้นตอนจะยึดหลักตามนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็นไปตามข้อตกลงสัญญาคุณธรรม” พล.ต.อ.เอกกล่าว
ด้านนางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ ขสมก.จะต้องส่งหนังสือแจ้งผลการประกวดราคาไปยังกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC และบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด เพื่อให้รับทราบ ซึ่งก่อนที่จะมีการลงนามสัญญาซื้อขายนั้นขสมก.จะต้องดูก่อนว่ามีการคัดค้านอีกหรือไม่
ซึ่งหากมีการคัดค้านผู้ร้องจะต้องไปยื่นคำร้องที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ และคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) เพื่อให้ตรวจสอบโดยจะใช้ระยะเวาลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในขณะที่ ขสมก.จะต้องไปชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อรถเมล์ ต่อกวพ.อ.ทราบซี่งขสมก.จะเตรียมเอกสารและเรียกกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC มาลงนามสัญญา
โดยหลังลงนามสัญญา ตามเงื่อนไขกำหนดให้ ต้องส่งมอบรถ รวม 4 ล็อต โดย ล็อตแรก จำนวน 50 คันภายใน 60วันหลังลงนามสัญญา ล็อตที่2 จำนวน100คัน ใน70วัน ล็อตที่ 3 จำนวน150คัน ภายใน 80วัน และล็อตที่4 จำนวน189คัน ภายใน90วัน รวมทั้งหมด489คัน โดยรถใหม่ที่จะนำมาวิ่งใน20เส้นทาง
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ขสมก.เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ได้มีมติรับรองมติบอร์ดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2558 ที่ได้มีการอนุมัติผลการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV)ล็อตแรก จำนวน 489 คัน ซึ่งกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ที่มีบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการยื่นเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ๊อคชั่น) โดยหลังจากนี้ทาง ขสมก.จะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุ เพื่อลงนามสัญญาต่อไป
ทั้งนี้ บอร์ดขสมก.ได้พิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้แต่งตั้งขึ้นหลังจากมีข้อร้องเรียน โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ประชุม 2 ครั้ง และมีการเชิญผู้ตั้งข้อสังเกต อาทิ นายต่อตระกูล ยมนาค มาให้ข้อมูลแล้วจากนั้นจึงได้สรุปความเห็นรายงานต่อบอร์ด ซึ่งบอร์ดได้ซักถามจนเกิดความชัดเจนทุกประเด็นแล้วจึงเห็นว่าต้องเร่งดำเนินการเพื่อรับมอบรถโดยเร็วที่สุด เนื่องจากยิ่งล่าช้าจะยิ่งเสียเวลาและทำให้ประชาชนเสียโอกาส พร้อมกันนี้ จะมีการชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด และผู้ที่ได้มีการร้องเรียน
“บอร์ดขสมก.ยินดีรับฟังความเห็นหรือข้อท้วงติงจากทั้ง เบสท์รินกรุ๊ป และผู้สังเกตการณ์ อ.ต่อตระกูล จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ข้อฟ้องร้องต่างๆ มีเหตุผลหรือไม่อย่างไร วันนี้ชัดเจนแล้ว ไม่มีปัญหาจึงให้เดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการฟ้องร้องที่ศาลปกครองขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ซึ่งทุกขั้นตอนจะยึดหลักตามนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็นไปตามข้อตกลงสัญญาคุณธรรม” พล.ต.อ.เอกกล่าว
ด้านนางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ ขสมก.จะต้องส่งหนังสือแจ้งผลการประกวดราคาไปยังกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC และบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด เพื่อให้รับทราบ ซึ่งก่อนที่จะมีการลงนามสัญญาซื้อขายนั้นขสมก.จะต้องดูก่อนว่ามีการคัดค้านอีกหรือไม่
ซึ่งหากมีการคัดค้านผู้ร้องจะต้องไปยื่นคำร้องที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ และคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) เพื่อให้ตรวจสอบโดยจะใช้ระยะเวาลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในขณะที่ ขสมก.จะต้องไปชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดซื้อรถเมล์ ต่อกวพ.อ.ทราบซี่งขสมก.จะเตรียมเอกสารและเรียกกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC มาลงนามสัญญา
โดยหลังลงนามสัญญา ตามเงื่อนไขกำหนดให้ ต้องส่งมอบรถ รวม 4 ล็อต โดย ล็อตแรก จำนวน 50 คันภายใน 60วันหลังลงนามสัญญา ล็อตที่2 จำนวน100คัน ใน70วัน ล็อตที่ 3 จำนวน150คัน ภายใน 80วัน และล็อตที่4 จำนวน189คัน ภายใน90วัน รวมทั้งหมด489คัน โดยรถใหม่ที่จะนำมาวิ่งใน20เส้นทาง