ขสมก.ชงบอร์ด 12 มิ.ย.นี้อนุมัติผลประมูลซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน พร้อมเตรียมนัดกลุ่ม ช.ทวี ดอลลาเซียน เซ็นสัญญาซื้อรถใน 15-16 มิ.ย.นี้ เร่งส่งมอบล็อตแรก 50 คันภายใน 40 วันแรก “ปราณี” เผยแยกสัญญาซ่อมบำรุง 10 ปี เซ็นทีหลังไม่มีปัญหา
นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,784.85 ล้านบาท ว่า ขสมก.จะเสนอผลการประกวดราคาต่อคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. ที่มี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน จะประชุมในวันที่ 12 มิ.ย.นี้เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินจัดซื้อ ซึ่งกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ที่มีบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ เป็นผู้ชนะในการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชัน) โดยคาดว่าจะนัดลงนามในสัญญาได้ในวันที่ 15 มิ.ย. หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 16 มิ.ย. โดยจะลงนามกับกลุ่ม JVCC ในส่วนของสัญญาจัดซื้อรถจำนวน 489 คันก่อน ซึ่งคาดว่าจะตรวจสอบร่างสัญญาเสร็จภายใน 1-2 วันนี้
ทั้งนี้ ขสมก.จะมีการลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูล 2 ฉบับ คือ สัญญาจัดซื้อรถจำนวน 489 คัน และสัญญาซ่อมบำรุงระยะเวลา 10 ปี ซึ่งในส่วนของการซ่อมบำรุงนั้นสามารถลงนามภายหลังจากการซื้อรถได้ เนื่องจาก ขสมก.ต้องการเร่งการส่งมอบรถโดยเร็วที่สุด ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องส่งมอบครบทั้ง 489 คันภายใน 90 วันนับจากลงนามสัญญา โดยภายใน 40 วันแรกจะต้องส่งมอบรถล็อตแรกจำนวน 50 คัน จากนั้นทยอยส่งมอบจนครบตามเงื่อนไข
“ขณะนี้อัยการยังตรวจร่างสัญญาไม่เสร็จ แต่คิดว่าจะเสร็จใน 1-2 วันนี้ จึงนัดประชุมบอร์ด ขสมก.ไว้เลยเพื่อเป็นการทำงานแบบคู่ขนานในส่วนของการซื้อรถ และหลังจากนั้นจะเซ็นสัญญาซ่อมบำรุง 10 ปีต่อไป” นางปราณีกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตามแผนการรับมอบรถเมล์ NGV กำหนดว่ารถล็อตแรกจำนวน 50 คันจะรับมอบได้ในเดือน ก.ค. จากนั้นจะทยอยรับมอบเฉลี่ย 5 คันต่อ 2 สัปดาห์ และรับมอบครบ 489 คันภายใน 90 วันหลังลงนามสัญญาแน่นอน โดยได้มีการจัดเตรียมพื้นที่และจุดเติมก๊าซที่อู่จอดรถ 3 แห่ง คือ เขตเดินรถที่ 5 (แสมดำ) เขตเดินรถที่ 1 (บางเขน, รังสิต) รองรับรถเมล์ NGV ได้แห่งละประมาณ 200 คัน พร้อมทั้งได้ตรวจสอบเส้นทางเดินรถ 20 เส้นทาง ทั้งสภาพถนน และคอสะพานเรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ขสมก.ได้ประมูลจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ด้วยวิธีอี-ออกชันเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 58 ปรากฏว่ากลุ่ม JVCC เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด โดยเฉลี่ยต่ำกว่าราคากลางประมาณ 1 แสนบาทต่อคัน หรือลดลงจากคันละ 3.65 ล้านบาท เหลือคันละ 3.55 ล้านบาท ทำให้วงเงินรวมจะลดลงจาก 1,784.85 ล้านบาทมาอยู่ที่ประมาณ 1,738 ล้านบาท โดยปีที่ 1-5 กำหนดค่าซ่อมบำรุงไว้ที่ 925 บาทต่อคันต่อวัน คิดเป็นวงเงินรวมตลอด 5 ปีแรกประมาณ 825.5 ล้านบาท รวมกับค่าซ่อมปีที่ 6-10 อีก 1,460 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับโครงการซื้อรถเมล์ 489 คันนี้มีวงเงินรวม 10 ปีกว่า 4,023 ล้านบาท
