xs
xsm
sm
md
lg

IATA พบ “คมนาคม” ไม่ติดใจปัญหามาตรฐานการบิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายคอราด คลิฟฟอร์ด ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) พร้อมคณะเข้าพบพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2558
“ประจิน” เผย IATA ไม่ติดใจปมข้อบกพร่องการบินจากการตรวจสอบของ ICAO พร้อมรับประสานกับ FAA ที่จะเข้ามาตรวจสอบใน ก.ค.นี้ ยอมรับตรวจสอบสายการบินเพื่อออกใบรับรองใหม่ (AOC) ช้ากว่าแผน คาดเริ่มได้ ก.ค. เหตุต้องให้อธิบดี บพ.ตรวจสอบรับรองคู่มือที่ปรับใหม่ก่อน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง นายคอราด คลิฟฟอร์ด ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) พร้อมคณะเข้าพบวานนี้ (4 มิ.ย.) ว่า ได้หารือถึงการแก้ปัญหากรณีที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ตรวจสอบกรมการบินพลเรือน (บพ.) ตามโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Program; USOAP) และพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (SSC) ซึ่งมีความก้าวหน้ามากพอที่จะชี้แจงต่อ ICAO แล้ว โดย IATA พร้อมให้การช่วยเหลือไทยแก้ปัญหาด้วยการประสานข้อมูลกับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ที่มีกำหนดการจะเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานการบินของไทยในเดือน ก.ค.นี้

โดยในการแก้ไข SSC กรณีสินค้าอันตราย (Dangerous Goods) ก้าวหน้าเกิน 90% แล้ว ทั้งเรื่องคู่มือ บุคลากรที่จะตรวจสอบสายการบิน ส่วนการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (Air Operator Certificate : AOC) ในส่วนของการจัดทำคู่มือที่เกี่ยวข้องกับการตรวจเพื่อออกใบรับรองใหม่ (AOC Re-certification) ซึ่งมีประมาณ 300 หน้านั้น นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน จะต้องตรวจสอบและให้การรับรอง โดยขณะนี้นายสมชายยังอยู่ต่างประเทศซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 10 วัน จากนั้นจะเป็นการฝึกอบรมบุคลากร คาดว่าใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์จึงจะสามารถจัดทีม 5 ทีมเพื่อตรวจสอบ 16 สายการบินแรกให้แล้วเสร็จในต้นเดือน ต.ค. 2558 ซึ่งยอมรับว่าล่าช้ากว่าแผนเดิมที่จะเริ่มตรวจสอบสายการบินตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้

นายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ทาง IATA ไม่ได้แสดงความเป็นกังวลเรื่องข้อจำกัดการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากขณะนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวคือการปรับตารางการบินสายการบินใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นจะมีการบินหนาแน่น รวมถึงการจัดหาท่าอากาศยานบินใหม่เพื่อรองรับ ซึ่งจะสอดคล้องกับการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation : MOC) กับกองทัพเรือ (ทร.) เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ในการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 เพื่อเป็นทางเลือกให้รองรับปริมาณผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม การปรับตารางการบินใหม่นั้นจะมีการประชุมร่วมกับ IATA วันที่ 5 มิ.ย.นี้

นอกจากนี้ ยังได้รายงานเรื่อง พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดค่าชดเชยผู้ที่ได้รับความเสียหายกับผู้โดยสาร โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งต่อจากนี้จะต้องมีการกำหนดค่าชดเชยทุกสายการบิน โดยต้องเป็นแบบมาตรฐาน ซึ่งกรณีดังกล่าวกฎหมายได้มีผลบังคับใช้แล้ว ทั้งนี้ หากเกิดเหตุขึ้นผู้โดยสารจะได้ไม่ต้องฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหาย ทั้งกรณีการเสียชีวิตและบาดเจ็บ อย่างกรณีเสียชีวิตสายการบินจะต้องชดเชยให้เป็นวงเงิน 5 ล้านบาท หากยังไม่เห็นด้วยการชดเชยดังกล่าวญาติผู้เสียชีวิตก็สามารถฟ้องร้องได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น