xs
xsm
sm
md
lg

สศอ.คาด GDP อุตฯ ปีนี้พลิกโต 2-3% แต่ต้องจับตา 5 ปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สศอ.” ประเมิน GDP อุตสาหกรรมไทยปีนี้พลิกกลับมาโต 2-3% คิดเป็นมูลค่า 2.69-2.71 ล้านล้านบาท จากปีที่แล้วติดลบ 0.4% โดยมี 8 อุตสาหกรรมหลักเป็นตัวขับเคลื่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเกาะติด 5 ปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลังทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจอาเซียน ค่าเงิน นโยบายด้านดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินอัตราการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 2558 ที่จะเติบโต 3-4% ทำให้ สศอ.คาดการณ์ว่า GDP ภาคอุตสาหกรรมปีนี้จะเติบโต 2-3% หรือคิดมูลค่าประมาณ 2.69-2.71 ล้านล้านบาทเมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ GDPอุตสาหกรรมมีมูลค่าอยู่ที่ 2.63 ล้านล้านบาท ซึ่งติดลบ 0.4% เมื่อเทียบกับปี 2557

ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนที่ทำให้ GDP อุตสาหกรรมเติบโตปีนี้มาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมหลักๆ 8 สาขาได้แก่ 1. อาหารและเครื่องดื่ม 2. ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 3. เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 4. อุตสาหกรรมเคมีและผลิตภัณฑ์เคมี 5. อุตสาหกรรมปิโตรเลียม 6. ผลิตภัณฑ์แก้ว ซีเมนต์ คอนกรีต กระเบื้องและเซรามิก 7. อุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก 8. สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

อย่างไรก็ตาม การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามการเติบโตของเศรษฐกิจภาพรวมซึ่งยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องติดตามครึ่งปีหลังที่สำคัญ ได้แก่ 1. ภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งพบว่ามีเพียงสหรัฐอเมริกาที่ยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โตขึ้น ที่เหลือพบว่ามีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น ส่งผลให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2558 เหลือ 3.5% จากเดิมโต 3.8% 2. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งปี 2558 การเติบโตมีแนวโน้มชะลอตัวลงหรือใกล้เคียงกับปี 2557 ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่ลดลงเนื่องจากประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งตลาดอาเซียนนั้นถือเป็นอีกตลาดหนึ่งของไทยที่มีอัตราการเติบโตสูง หากมีผลกระทบก็จะทำให้การส่งออกลดต่ำลงได้

3. นโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งแต่ละประเทศโดยเฉพาะคู่แข่งทางการค้าไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ จีน ต่างก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีการปรับลดลงอีกหรือไม่อย่างไร 4. อัตราแลกเปลี่ยนซึ่งมีแนวโน้มจะผันผวนไปในทิศทางอ่อนค่าลงในส่วนของค่าเงินบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งก็มีแนวโน้มอ่อนค่าเช่นกันและภาพรวมประเทศเพื่อนบ้านมีทิศทางอ่อนค่ากว่าเงินบาทไทย และ 5. ทิศทางราคาน้ำมันดิบที่มีความผันผวน ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงมีทิศทางผันผวน และในช่วงครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าจะสวิงตัวไปในทิศทางที่ปรับขึ้นเล็กน้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น