นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยมีความสงบเรียบร้อยดีขึ้น นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น ซึ่งพิจารณาได้จากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงไตรมาส 1/2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 7.88 ล้านคน เพิ่มขึ้น 23.5% จากไตรมาส 1/2557 (ไตรมาส 1/2557 มีจำนวน 6.38 ล้านคน) เป็นปัจจัยสนับสนุนสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรมของประเทศไทยให้พลิกฟื้นจากปีที่ผ่านมา
สำหรับผลการดำเนินงานของ CENTEL ในไตรมาส 1/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,155.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 530.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงแรม 17.3% และเพิ่มขึ้นจากธุรกิจอาหาร 5.5% สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมคิดเป็น 53.0% ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารคิดเป็น 47.0% (ไตรมาส 1/2557 เท่ากับ 50.3%:49.7%)
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคา และภาษี (EBITDA) จำนวน 1,443.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.1 ล้านบาท หรือ 27.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจำนวน EBITDA ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของ EBITDA ธุรกิจโรงแรม ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2558 เติบโตในอัตราร้อยละ 66.1% โดยมีกำไรสุทธิ 833.8 ล้านบาท (ไตรมาส 1/2557: 501.9 ล้านบาท
ธุรกิจโรงแรม
• ธุรกิจโรงแรมมีรายได้รวม 2,730.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402.9 ล้านบาท คิดเป็น 17.3% จากไตรมาส 1/2557
• อัตราการเข้าพัก 85.3% เพิ่มขึ้น 9.7% จุด (ไตรมาส 1/2557: 75.6%)
• RevPar อยู่ที่ 4,932 บาท เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557
• โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ในกรุงเทพฯ ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 80% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม (ไตรมาส 1/2557: 16%)
• ในขณะที่โรงแรมทั้งสองแห่งในมัลดีฟส์ ประกอบด้วย เซ็นทาราแกรนด์ไอส์แลนด์รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์ และเซ็นทาราราสฟูชิรีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์ ยังสามารถสร้างรายได้ดี โดยคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจอาหาร
• ธุรกิจอาหาร มีรายได้รวม 2,425.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.5 ล้านบาท หรือเติบโต 5.5% จากไตรมาส 1/2557 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว
• โดยมีอัตราการเติบโตของยอดรวมทุกสาขา (Total-System-Sales Growth) 5.6% (ไตรมาส 1/2557: 6.3%)
• มีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Same-Store-Sales Growth) 0.6% (ไตรมาส 1/2557: -1.8%)
• แบรนด์ KFC Mister Donut Auntie Anne’s และ Ootoya เป็นแบรนด์หลักในการสร้างรายได้ คิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายได้จากธุรกิจอาหาร นอกจากนี้ The Terrace Cold Stone Creamery และ Tenya มีการเติบโตของรายได้มากกว่า 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
• มีการขยายสาขาของแบรนด์ต่างๆ ในไตรมาส 1/2558 จำนวน 25 สาขา ซึ่งทำให้มีจำนวนสาขาทั้งหมด 777 สาขา
• มีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า รวมทั้งการจัดทำการส่งเสริมการขาย และโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงจัดทำการตลาดโดยการออกชุดโปรโมชัน หรือมีการสะสมคะแนนเพื่อแลกซื้อสินค้าได้ในราคาพิเศษ
ในปี 2558 บริษัทฯ เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งได้มีการประเมินการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2558 โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 3-4% นับได้ว่าเป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต สำหรับทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย มีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2558 และคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศทั้งปีอยู่ในช่วง 28-29 ล้านคน
จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องอีกปีหนึ่ง โดยได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ 10-15% โดยประมาณ
สำหรับผลการดำเนินงานของ CENTEL ในไตรมาส 1/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,155.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 530.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงแรม 17.3% และเพิ่มขึ้นจากธุรกิจอาหาร 5.5% สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมคิดเป็น 53.0% ส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารคิดเป็น 47.0% (ไตรมาส 1/2557 เท่ากับ 50.3%:49.7%)
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคา และภาษี (EBITDA) จำนวน 1,443.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.1 ล้านบาท หรือ 27.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจำนวน EBITDA ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของ EBITDA ธุรกิจโรงแรม ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2558 เติบโตในอัตราร้อยละ 66.1% โดยมีกำไรสุทธิ 833.8 ล้านบาท (ไตรมาส 1/2557: 501.9 ล้านบาท
ธุรกิจโรงแรม
• ธุรกิจโรงแรมมีรายได้รวม 2,730.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 402.9 ล้านบาท คิดเป็น 17.3% จากไตรมาส 1/2557
• อัตราการเข้าพัก 85.3% เพิ่มขึ้น 9.7% จุด (ไตรมาส 1/2557: 75.6%)
• RevPar อยู่ที่ 4,932 บาท เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557
• โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ในกรุงเทพฯ ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 80% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม (ไตรมาส 1/2557: 16%)
• ในขณะที่โรงแรมทั้งสองแห่งในมัลดีฟส์ ประกอบด้วย เซ็นทาราแกรนด์ไอส์แลนด์รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์ และเซ็นทาราราสฟูชิรีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์ ยังสามารถสร้างรายได้ดี โดยคิดเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรมซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจอาหาร
• ธุรกิจอาหาร มีรายได้รวม 2,425.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.5 ล้านบาท หรือเติบโต 5.5% จากไตรมาส 1/2557 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว
• โดยมีอัตราการเติบโตของยอดรวมทุกสาขา (Total-System-Sales Growth) 5.6% (ไตรมาส 1/2557: 6.3%)
• มีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Same-Store-Sales Growth) 0.6% (ไตรมาส 1/2557: -1.8%)
• แบรนด์ KFC Mister Donut Auntie Anne’s และ Ootoya เป็นแบรนด์หลักในการสร้างรายได้ คิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายได้จากธุรกิจอาหาร นอกจากนี้ The Terrace Cold Stone Creamery และ Tenya มีการเติบโตของรายได้มากกว่า 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
• มีการขยายสาขาของแบรนด์ต่างๆ ในไตรมาส 1/2558 จำนวน 25 สาขา ซึ่งทำให้มีจำนวนสาขาทั้งหมด 777 สาขา
• มีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า รวมทั้งการจัดทำการส่งเสริมการขาย และโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงจัดทำการตลาดโดยการออกชุดโปรโมชัน หรือมีการสะสมคะแนนเพื่อแลกซื้อสินค้าได้ในราคาพิเศษ
ในปี 2558 บริษัทฯ เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งได้มีการประเมินการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2558 โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 3-4% นับได้ว่าเป็นปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต สำหรับทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย มีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2558 และคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศทั้งปีอยู่ในช่วง 28-29 ล้านคน
จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องอีกปีหนึ่ง โดยได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ 10-15% โดยประมาณ