xs
xsm
sm
md
lg

เข็น “บี.กริม เพาเวอร์” เข้าตลาดหุ้น Q2/59 ระดมทุนหมื่นล้านรุกโรงไฟฟ้าไทย-ตปท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บี.กริม เพาเวอร์” จ่อเข้าตลาดหุ้นไตรมาส 2/59 หวังระดมทุน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ลงทุนขยายโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังผลิตไฟรวม 5 พันเมกะวัตต์ภายใน 5 ปีนี้ เผยจ่อลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในเวียดนาม 1.2 พันเมกะวัตต์ และกลุ่มอมตะเจรจาให้ลงทุนโรงไฟฟ้าและสายส่งในนิคมฯ แห่งใหม่ในเวียดนามด้วย

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงไตรมาส 2/2559 เพื่อระดมทุนราว 1 หมื่นล้านบาทใช้ขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 5 พันเมกะวัตต์ จากสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 1.2 พันเมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน

ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงไฟฟ้า SPP ที่ดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำอยู่แล้ว 10 โรง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 1.2 พันเมกะวัตต์ และยังมีโรงไฟฟ้าอีก 8โรงอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะทยอยเสร็จในปี 2562-2563 ทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 2.2 พันเมกะวัตต์

จากเป้าหมายที่วางไว้ใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทฯ จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 5 พันเมกะวัตต์ บริษัทฯ จึงต้องแสวงหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว เวียดนาม พม่า เป็นต้น รวมทั้งหันมาขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในไทยด้วย เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังลม

นางปรียนาถกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกะตัม และโรงไฟฟ้าเซน้ำน้อย 2 คิดเป็นกำลังผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ใน สปป.ลาว คาดว่าจะจ่ายไฟให้การไฟฟ้าลาว (EDL) ในสิ้นปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวบริษัทฯ ถือหุ้นใหญ่ 70% ที่เหลือเป็นพันธมิตรท้องถิ่น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาวอีก 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 97.5 เมกะวัตต์ และ 300 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ จะถือหุ้นใหญ่ใน 2 โครงการดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้และยังไม่ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟแต่อย่างใด

ส่วนเวียดนาม บริษัทฯ มีแผนจะลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดกำลังผลิตรวม 1.2 พันเมกะวัตต์ แบ่งเป็น 2 ยูนิต ยูนิตละ 600 เมกะวัตต์ตั้งใกล้โฮจิมินห์ ซิตี้ โดยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมทั้งบริษัทฯ ยังได้มีการทาบทามจากกลุ่มอมตะที่เสนอให้บริษัทฯ เข้าไปลงทุนด้านสายส่ง สถานีไฟฟ้าย่อย และโรงไฟฟ้าในนิคมฯ แห่งใหม่ของกลุ่มอมตะในประเทศเวียดนามด้วย จากเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว บี.กริม เพาเวอร์ได้ร่วมทุนกับอมตะลงทุนโรงไฟฟ้าป้อนให้นิคมฯ เบียนหัว ที่เวียดนาม

สำหรับพม่านั้น บริษัทฯ เคยยื่นประมูลสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงแถบมัณฑะเลย์ กำลังผลิต 200 เมกะวัตต์ แต่ไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะประมูล ดังนั้นบริษัทฯ จึงแสวงหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติม โดยมีนักลงทุนท้องถิ่นเข้ามาเสนอให้บริษัทฯ เข้ามาร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าหลายโครงการ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

นางปรียนาถกล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ของกลุ่ม บี.กริม ในช่วงนี้จะเน้นประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในไทยโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ยังไม่มีความชัดเจนการเปิดรับซื้อรอบใหม่ ทั้งๆ ที่ SPP ถือเป็นโรงไฟฟ้าที่มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมมาก และล่าสุดโรงไฟฟ้า SPP หลายแห่งจะหมดสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในปี 2560 ทำให้ลูกค้าที่เคยซื้อไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวเกิดความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากภาครัฐอาจจะไม่ต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้า SPP ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่จะต้องใช้ไฟฟ้าไม่เสถียรและอาจไม่พอใช้

ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์มีโรงไฟฟ้า SPP ที่จะหมดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอยู่ 3 โรง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 400 กว่าเมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม จากนโยบายรัฐที่ส่งเสริมพลังงานทดแทน ทำให้บริษัทฯ หันมาลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังลม โดยตั้งเป้าหมาย 3 ปีนี้จะมีกำลังการผลิตพลังงานทดแทน 300 เมกะวัตต์ มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ค้างท่อและโซลาร์สหกรณ์ ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังลมจาก 16 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้นเป็น 60 เมกะวัตต์
กำลังโหลดความคิดเห็น